เก็ง 8 หุ้นท่องเที่ยว รับเป้าต่างชาติเข้าไทยปี 68 แตะ 40 ล้านคน พ่วงหวังรายได้โต 7.5%
คัด 8 หุ้นท่องเที่ยว เตรียมรับอานิสงส์ รมว.ท่องเที่ยว วางเป้าปี 68 ต่างชาติเข้าไทย 40 ล้านคน ไทยเที่ยวไทย 200 ล้านคน/ครั้ง คาดสร้างรายได้โตจากปี 2567 ประมาณ 7.5%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวไทยในปี2568 โดยตั้งเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา จำนวน 40 ล้านคน หรือกลับมาเท่าระดับเดิมก่อนช่วงโควิด-19 ส่วนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) วางเป้าหมาย best case ไว้ที่ 39 ล้านคน ส่วนไทยเที่ยวไทย วางเป้าหมายไว้ที่ 200 ล้านคน/ครั้ง ทั้งนี้ คาดสร้างรายได้โตจากปี 2567 ประมาณ 7.5%
ขณะเดียวกัน ทางกระทรวงฯ กำลังดำเนินการให้สิ่งที่อยู่นอกระบบเข้ามาในระบบ อย่างรีสอร์ท หรือโรงแรวมต่าง ๆ ซึ่งอาจจะเพิ่ม พ.ร.บ.โรงแรม หรืออื่น ๆ เข้ามา ดังนั้นมองว่าปีหน้า รายได้จะเพิ่มจากการเข้ามาอยู่ในระบบเพิ่ม ซึ่งก็มีโอกาสที่รายได้จะเกิน 3 ล้านล้านบาท รวมทั้งในปี 2568 กระทรวงฯ ได้เตรียมความพร้อมที่จะคิกออฟมาตรการก่อนช่วงโลซีซัน โดยกระทรวงการคลังเตรียมเปิดมาตรการ Easy E-receipt ซึ่งครั้งนี้สามารถนำมาใช้ในภาคท่องเที่ยวได้ด้วย ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาท คาดเริ่มตั้งแต่กลางเดือนม.ค.-สิ้นเดือนก.พ. 2568 ซึ่ง ททท.อยู่ระหว่างคิดแพ็กเกจ รวมถึงการบ้านที่เคยพูดก่อนหน้านี้ คือ Sharing เราเที่ยวด้วยกัน ก็อยู่ระหว่างเตรียมคิกออฟเช่นกัน
ขณะที่ จากรายงานตัวเลขนักท่องเที่ยววันที่ 9-15 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา มีจำนวนอยู่ที่ 772,553 คน เพิ่มขึ้น 10.50% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน จากการเข้าสู่ช่วง High season ส่งผลภาพรวมทั้งปีตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.67-15 ธ.ค.67 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินเข้ามาสะสมกว่า 33.49 ล้านคน เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยสอดคล้องกับบทวิเคราะห์ของ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ระบุว่า สำหรับประเทศไทยเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นเต็มตัว พร้อมคาดจำนวนนักท่องเที่ยวปี 2567 ไว้ที่ 35.6 ล้านคน และปี 2568 อยู่ที่ 40 ล้านคน โดยจะส่งผลให้คาดการณ์ว่ากำไรกลุ่มการบินไตรมาส 4/2567 แข็งแกร่งต่อเนื่อง ลุ้นปริมาณผู้โดยสารโต 19% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และโต 18% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยราคาตั้วยังสูงและราคาน้ำมันต่ำ แนะนำ Bullish กลุ่มฯ และเลือก บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV เป็นหุ้น Top pick ให้ราคาเป้าหมาย 3.90 บาท
ขณะที่ บริษัท หลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า มองเป็นบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยวจากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของไทย รวมถึงการเดินทางเข้ามาของกลุ่มนักท่องเที่ยวระยะไกล เนื่องจากในเดือน ธ.ค. มีหลายเทศกาลเข้ามาช่วยหนุน รวมถึงการประเมินว่าในปี 2568 จะมีนักท่อเที่ยวจำนวน 39 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ยังชอบ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 3.60 บาท, บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL คงคำแนะ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 44.00 บาท และ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 34.00 บาท
ด้านบริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จํากัด (มหาชน) ระบุว่า มีการประเมินนักท่องเที่ยวในปี 2568 อยู่ที่ 38.6 ล้านคน โดยปัจจัยหนุนมาจากมาตรการสนับสนุนของภาครัฐ, การขอตารางบินฤดูหนาว (ต.ค.–มี.ค.) เส้นทางระหว่างประเทศของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ขยับขึ้นราว 30%
ส่วนในระยะสั้นแนวโน้มกำไรกลุ่มท่องเที่ยวไตรมาส 4/2567 กลับมาขยายตัว และคาดกำไรปกติปี 2568 –2570 เติบโตเฉลี่ย 12.7% ต่อปี ดังนั้น คงประมาณการคำแนะนำหุ้นในกลุ่มทั้ง AOT ราคาเป้าหมาย 69 บาท, CENTEL ราคาเป้าหมาย 48 บาท, MINT ราคาเป้าหมาย 37 บาท และ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW ราคาเป้าหมาย 4.50 บาท
นอกจากนี้ บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า การเข้าช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวล่าสุดจากต้นปีถึงปัจจุบันอยู่ที่ 33.5 ล้านราย เพิ่มขึ้น 27% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้แนะนำ AAV, AOT, บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC, ERW,บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC และบริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA