คัด 3 หุ้นท็อปพิก รับอานิสงส์ “เที่ยวคนละครึ่ง” กระตุ้นเศรษฐกิจต้นปี 68
โบรกแนะสอย CENTEL-MINT-ERW ตีปีกรับกระทรวงการท่องเที่ยว เตรียมเดินหน้าโครงการ “เที่ยวคนละครึ่ง” อัดงบ 2 หมื่นล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจต้นปี 68
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2568 รัฐบาลเริ่มมีความชัดเจนเกี่ยวกับโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งลักษณะโครงการเป็นการสมทบค่าใช้จ่ายจากรัฐบาลในการท่องเที่ยวเบื้องต้นมีการกำหนดไว้ที่ 50% และประชาชนจ่ายเอง 50% ซึ่งนำไปใช้ได้กับสินค้าและบริการท่องเที่ยว โดยเฉพาะโรงแรม ที่พัก คาดการณ์ใช้งบประมาณ 20,000 ล้านบาท
ขณะที่ ช่องทางในการดำเนินการทั้งการจองและใช้จ่ายจะพิจารณาอีกครั้งว่าจะทำผ่านช่องทางใด เพื่อไม่ให้เกิดรูรั่วเหมือนช่วงที่ผ่านมา โดยคาดการณ์ว่าระยะเวลาในการดำเนินโครงการดังกล่าวคือเดือน มีนาคม 2568 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวสอดคล้องกับบทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้ออกมาคาดการณ์ถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคท่องเที่ยวปี 2568 ว่าหุ้นที่คาดการณ์ได้ประโยชน์ คือ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT และ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW เป็นต้น
โดยฝ่ายนักวิเคราะห์มีมุมมองเป็นบวกต่อ “กลุ่มท่องเที่ยว” จากโครงการ “เที่ยวคนละครึ่ง” ซึ่งมีการจ่ายสมทบค่าใช้จ่ายให้ประชาชนได้ 50% มากกว่ารอบก่อนที่มีโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ซึ่งรัฐบาลจ่ายให้ 40% (ข้อมูลดังกล่าวอ้างอิงโครงการเราเที่ยว ด้วยกันที่ระบุว่า ให้ส่วนลดที่พัก 40% สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คืน ใช้สิทธิได้ไม่เกิน 10 ห้องหรือคืนต่อคน และคูปองอิเล็กทรอนิกส์สำหรับจ่ายค่าอาหารและท่องเที่ยว มอบส่วนลด 40% สูงสุดไม่เกิน 600 บาท/ห้อง/วัน) ขณะที่ ฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะสามารถเริ่มใช้สิทธิ์ได้ช่วงไตรมาส 2/2568
ทั้งนี้ หุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากมากไปน้อยเรียงตามสัดส่วนรายได้ภายในประเทศไทย คือ ERW ที่มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 88%, CENTEL อยู่ที่ 80% และ MINT อยู่ที่ 15% โดยฝ่ายนักวิเคราะห์ยังแนะนำลงทุนเด่น คือ ERW และ CENTEL คาดการณ์จะได้ปัจจัยบวกจากทั้งโครงการเราเที่ยวด้วยกันและจำนวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวได้ดี
ขณะที่ ฝ่ายนักวิเคราะห์ได้ให้น้ำหนักการลงทุน “มากกว่าตลาด” โดยแนะนำหุ้น Top pick ของกลุ่มท่องเที่ยวที่มีความชื่นชอบ คือ CENTEL แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 44.00 บาท , MINT แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 34.00 บาท และ ERW แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 4.40 บาท คาดการณ์ปัจจัยเชิงบวกมากที่สุดในกลุ่ม
นอกจากนี้ ยังมีบริษัทหลักทรัพย์อื่นๆ ได้ให้มุมมองต่อผลการดำเนินงานต่อหุ้นข้างต้น โดยมองว่าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/2567 ถึงปี 2568 จากทิศทางภาคท่องเที่ยวที่ปรับตัวขึ้น อาทิ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ถึง CENTEL แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 48.25 บาท โดยคาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 เติบโตจากไตรมาสก่อนหน้าตามปัจจัยฤดูกาล ถึงแม้มีโอกาสอ่อนตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนด้วยค่าใช้จ่ายโรงแรมเปิดใหม่ที่สูงขึ้น และโรงแรมเดิมที่อยู่ระหว่างปรับปรุง 2 แห่งคาดการณ์ให้บริการได้บางส่วนในในปลายปี 2567 อย่างไรก็ตามในปี 2568 ทั้งนี้ฝ่ายนักวิเคราะห์เห็นแนวโน้มที่ดีของธุรกิจหลัก สนับสนุนด้วยการเติบโตของนักท่องเที่ยว และรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPar) ที่คาดกาณณ์เพิ่มสูงขึ้น
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ถึง ERW แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 5.65 บาท โดยประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2567 เข้า High season และมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว โดยฝ่ายนักวิเคราะห์เราคาดการณ์ว่าในไตรมาส 4/2567 จะมีทิศทางการเติบโตเด่นตามตามปัจจัยฤดูกาล รวมทั้งการท่องเที่ยวหนุน นอกจากนี้ประเมินจะได้รับ Sentiment บวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและลุ้นมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่มเติม
บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ถึง MINT แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 34 บาท โดยฝ่ายนักวิเคราะห์คงประมาณการกำไรปกติปี 2567 อยู่ที่ 7.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจากการฟื้นตัวในทุกประเทศ โดยเฉพาะที่ประเทศไทยและยุโรป ขณะที่คาดการณ์ว่าในไตรมาส 4/2567 จะเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนได้ต่อเพราะเป็น High season ที่ไทยและมัลดีฟส์เข้ามาช่วยสนับสนุน รวมถึงค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจะลดลงจากการทยอยคืนหนี้