“BTS” รับ 1.43 หมื่นลบ. ส่งท้ายปี หลัง “กทม.” จ่ายหนี้แล้ว กด D/E ลดฮวบเหลือแค่ 1.3 เท่า
“บีทีเอส” รับทรัพย์ 1.43 หมื่นล้านบาท ล่าสุด กทม. จ่ายค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุดเรียบร้อยแล้ว ผู้บริหาร เผยหนี้ต่อทุนเหลือ 1.3 เท่าจากเดิม 2.4 เท่า เตรียมเปิดเจรจา “ชัชชาติ” หนี้ก่อนที่เหลืออีก 3 หมื่นล้านบาท ต้นเดือน ม.ค.68 ด้าน “บล.กรุงศรี” มอง BTS เทิร์นอะราวด์ ให้ราคาเป้าหมาย 6.49 บาท
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา ผู้อำนวยการใหญ่สายธุรกิจ MOVE และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ในเครือบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.67 บริษัทได้รับเงินค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว จำนวน 14,374 ล้านบาท จากกรุงเทพมหานคร (กทม.) แล้ว โดยมีการหักภาษี ณ ที่จ่าย 1% ตามกฎหมาย ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิม ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด
ทั้งนี้ภายหลังจาก BTS ได้รับเงินก้อนดังกล่าวแล้วจะทำให้หนี้สินต่อทุน หรือ D/E ลดเหลือเพียง 1.3 เท่า (ณ วันที่ 27 พ.ย.67) จากเดิม 2.4 เท่า (ณ วันที่ 30 ก.ย.67) โดยบริษัทจะทยอยชำระหนี้ที่ครบกำหนดก่อน และเก็บไว้ส่วนหนึ่งเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท เพื่อรอชำระหนี้ส่วนที่เหลือที่ยังไม่ครบกำหนด
ส่วนการเจรจากับกทม. ในหนี้ O&M โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนที่เหลือ อีก 3 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะสามารถหารือกันได้ในต้นเดือน ม.ค.68 นี้ หลังสภากทม.เปิดสมัยประชุมสามัญ
โดยหนี้ดังกล่าว เป็นค่าจ้างเดินรถที่ BTSC ได้ยื่นฟ้องเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 22 พ.ย.65 ปัจจุบันอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาลชั้นต้น จำนวน 11,811 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดหนี้ O&M ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวในเส้นทางส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ตั้งแต่เดือน พ.ย.65 ถึงเดือน มิ.ย.67 ประมาณ 13,513 ล้านบาท ที่ยังไม่ได้ฟ้องศาล
นอกจากนี้ BTS ยังพร้อมเจรจากับภาครัฐ กรณีซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว, สายสีชมพู และสายสีเหลือง หากได้ราคาที่เหมาะสม ตามนโยบาย “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” อย่างไรก็ตาม แม้จะขายสัมปทานไปแล้ว บริษัทก็ยังคงรับจ้างเดินรถอยู่ ซึ่งมีรายได้แน่นอนสม่ำเสมอ
ด้านนายนภาพล จีระกุล สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) เขตบางกอกน้อย ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญเพื่อศึกษาปัญหาของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า ได้หารือกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เกี่ยวกับแนวทางการชำระหนี้ O&M โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนที่เหลือ โดยคาดว่า จะมีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือสภากทม. ในเดือน ม.ค.68 นี้ โดยประชุมบอร์ดวิสามัญฯ ได้มอบหมายให้ผู้ว่าฯ กทม. ไปเจรจากับ BTS เพื่อขอลดดอกเบี้ย ก่อนจะสรุปแนวทางชำระหนี้กันอีกครั้ง เพื่อลดภาระดอกเบี้ย ที่มีวันละ 7 ล้านบาท
BTS ปีหน้า เทิร์นอะราวด์
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ หัวหน้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กรณี BTS ได้รับชำระหนี้ O&M โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว กว่า 1.43 หมื่นล้านบาท จากกทม. ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นเงินก้อนใหญ่มาก ซึ่งจะส่งให้สถานะทางการเงินของบริษัทดีขึ้น รวมทั้งมีโอกาสต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
“เงินก้อนนี้ถือว่ามีผลต่อฐานะทางการเงินของบีทีเอสมาก เพราะเป็นเงินก้อนใหญ่ ธุรกิจของเขามีโอกาสที่ต่อยอดได้มากขึ้นกว่าที่ผ่านมา”
ทั้งนี้ นายกรภัทร มองว่า ปี 2568 BTS มีโอกาส “เทิร์นอะราวด์” สูง จากปัจจัยหนุนหลักใน 2 เรื่อง ปัจจัยแรก คือ หนี้ก้อนที่เหลืออีก 3 หมื่นล้านบาท จากค่า O&M โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว นอกจากนี้ยังมีโอกาสขายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว, สีชมพู และสีเหลือง เนื่องจากรัฐต้องการเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งจะเป็นการอัพไซด์ต่อราคาหุ้น BTS ในปีหน้า โดยให้ราคาเป้าหมาย ณ ปัจจุบัน ที่ 6.49 บาท ยังไม่รวมปัจจัยบวกที่กล่าวมาข้างต้น