“พิชัย” นำทีมพาณิชย์ พบ “ส.อ.ท.” ให้คำมั่นสร้างแต้มต่อ “ส่งออกไทย” ยั่งยืน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (30 ธ.ค.67) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนำผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ ประกอบด้วย นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และอธิบดีทุกกรมในสังกัด ร่วมหารือกับ นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และคณะผู้บริหารของ ส.อ.ท. ว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับภาคเอกชนที่จะเป็นกลไปสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างยั่งยืนและให้ภาครัฐทำงานร่วมกันกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด การที่ผู้บริหารของกระทรวงพาณิชย์ และ ส.อ.ท. ได้พบหารือกันเพื่อวางแผนการทำงานร่วมกัน ช่วยให้เห็นภาพและเป้าหมาย ที่จะร่วมกันผลักดันนโยบายด้านเศรษฐกิจให้ตอบโจทย์เพื่อการเติบโตของประเทศ

นายพิชัย กล่าวอีกว่า กระทรวงพาณิชย์ ยินดีสนับสนุนการจัดงานใหญ่ ประจำปี “FTI EXPO 2025” โดย ส.อ.ท. ภายใต้แนวคิด “EMPOWERING THAI INDUSTRY, ELEVATING THAILAND’S FUTURE” ซึ่งจะจัดขึ้น ในวันที่ 12-15 ก.พ.68 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน บ่มเพาะผู้ประกอบการ และส่งผลกับเครื่องยนต์สำคัญทางเศรษฐกิจ อย่าง “การส่งออก” ที่ยังคงเป็น “พระเอก” ช่วยกระตุ้นจีดีพี (GDP) ของประเทศ

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในปี 2568 การส่งออกจะยังคงเป็นตัวแปรสำคัญ ในการกระตุ้น GDP ของประเทศ ตั้งเป้าการส่งออกเติบโตในปีหน้าที่ 2-3%  โดย 11 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-พ.ย.) การส่งออกเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 5.1% มีมูลค่า 275,763.6 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 9,695,455 ล้านบาท และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ ยอดส่งออกจะทะลุ 10 ล้านล้านบาท ซึ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวต่อว่า แม้ปีหน้าจะมีความเสี่ยงรอบด้านแต่ด้วยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชน รัฐบาลเชื่อมั่นว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้ โดยกระทรวงพาณิชย์ ขอยืนยันถึงความพร้อมในการสนับสนุนภาคธุรกิจและภาคเอกชน โดยมีภารกิจสำคัญ เช่น การสร้างสมดุลราคาสินค้า, การดูแลราคาสินค้าเกษตร, การควบคุมสินค้านำเข้าให้ได้มาตรฐาน, นอมินี, การเพิ่มมูลค่าให้สินค้าด้วยนวัตกรรม, การเจรจาลดภาษีผ่าน FTA และการผลักดันการส่งออกสินค้าและบริการของไทย

ขณะที่ นายเกรียงไกร ประธาน ส.อ.ท. กล่าวชื่นชมการทำงานของกระทรวงพาณิชย์ พร้อมขอบคุณการทำงานที่เข้าใจปัญหาที่ภาคเอกชนต้องเผชิญและสามารถผลักดันนโยบายได้อย่างตรงจุด โดยเฉพาะยินดีต่อความสำเร็จในการเจรจา FTA

“ไทย-เอฟตา” ซึ่งตลอดการเจรจา สภาอุตฯ ได้ให้ข้อมูลประกอบการเจรจาอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำถึงประสิทธิภาพการทำงานร่วม เพื่อนำไปสู่การเจรจาที่สัมฤทธิผล ก่อให้เกิดแต้มต่อที่เป็นประโยชน์ในทางการค้า การลงทุน และภาคอุตสาหกรรม

ซึ่ง ส.อ.ท. พร้อมสนับสนุนและส่งเสริมสมาชิกกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จาก FTA ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพต่อไป

นอกจากนี้ ประธาน ส.อ.ท. ยังชื่นชมโครงการสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ เช่น SMEs Pro-active และ GI รวมถึงกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่มีความพยายามของเปลี่ยนเป็นองค์กรดิจิทัล 100% ด้วย