เปิดไทม์ไลน์ “หมอบุญ วนาสิน” คนดังสู่ผู้ต้องหา ฉ้อโกงโครงการทิพย์หมื่นล้าน กระฉ่อนตลาดทุน

เปิดไทม์ไลน์ นายแพทย์บุญ วนาสิน ฉ้อโกง 5 โครงการทิพย์ หมื่นล้าน! ฟาก “ดีเอสไอ” สั่งออกหมายแดงล่าตัวกลับไทยขีนเส้นตายปี 68


ช็อควงการตลาดทุนไทยอีกครั้งในช่วงปลายปี 2567 เมื่อมีข่าวคุณหมอชื่อดัง “หมอบุญ วนาสิน” ว่าได้หลอกลวงนักลงทุนเข้าลงทุน ใน 5 โครงการทิพย์มูลค่าราว 15,000 ล้านบาท ทำให้มีผู้เสียหายเป็นวงกว้าง

ทั้งนี้ “สำนักข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้รวบรวมทามไลน์มหากาพย์จากวันที่ผู้คนเครพนับถือ สู่ผู้ต้องหาคดีดังที่มีหมายจับอยู่ในขณะนี้!

โดย นายแพทย์บุญ วนาสิน ปัจจุบันอายุ 86 ปี เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในนาม “หมอบุญ” หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง โรงพยาบาลธนบุรี ในปี 19 และอดีตกรรมการรวมทั้งผู้บริหาร บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ซึ่งเข้าจดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยจากชื่อเสียง ตำแหน่งงาน บวกกับการมีบริษัทเข้าจดทะเบียนใน ตลท. นับเป็นเครื่องการรันตีความน่าเชื่อถือให้บรรดานักลงทุนได้อย่างไม่ต้องสงสัย

ขณะที่ เส้นทางชีวิตที่สำคัญนั้น นายแพทย์บุญ วนาสิน จบการศึกษาคณะแพทยศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมเรียนต่อใน สาขาอายุรศาสตร์และทางเดินอาหาร มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ สหรัฐอเมริกา ก่อนกลับมาประเทศไทยเพื่อเข้าทำงานผู้ช่วยศาสตราจารย์ รวมถึงอาจารย์ประจำสาขาวิชาโรคทางเดินอาหาร ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ท้ายที่สุดได้ร่วมกับคนอื่นๆ ก่อตั้ง โรงพยาบาลธนบุรี ในปี 2519

ถัดมาในปี 2560 ได้นำ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เข้าจดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2560 โดย THG เปิดเทรดวันแรก ราคาอยู่ที่ 38.25 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือ 0.66% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 680.83 ล้านบาท นับว่าเป็นการเปิดตัวต่อนักลงทุนได้อย่างสวยงาม

ไม่เพียงเท่านั้นภายหลัง 2 ปี ที่ THG เข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นเกิดสถานการณ์แพร่ระบาด เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจทั่วโลก รวมทั้งตลาดหุ้นไทย แต่สวนทางกับราคาหุ้น THG กลับปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย ณ ช่วงเวลาดังกล่าวราคาหุ้น THG วันที่ 15 กรกฎาคม 2564 อยู่ที่ระดับ 33.50 บาท บวกไป 3.75 บาท หรือ 12.61% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 295.52 ล้านบาท นอกจากนี้ ราคาหุ้น THG เคยทำสถิติสูงสุดเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2565 ซึ่งปรับตัวขึ้นอยู่ที่ระดับ 99.50 บาท

โดยเป็นผลมาจาก นายแพทย์บุญ วนาสิน ให้ข้อมูลอ้างว่า THG มีแผนนำเข้าวัคซีนป้องกันโควิด – 19 อย่าง “Pfizer” จำนวน 20 ล้านโดส ซึ่งบริษัทจะลงนามสัญญาระหว่าง บริษัท บิออนเทค ที่มีฐานผลิตวัคซีนในประเทศ เยอรมนี นอกจากนี้ ยังมีการอ้างอิงว่าบริษัทเตรียมนำเข้าวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพิ่มเติม อย่าง Novavax จำนวน 10 ล้านโดส ร่วมด้วย

อย่างไรก็ตามภายหลัง สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานเกี่ยวกับการทำสัญญานำเข้าวัคซีนของ THG ทั้ง 2 บริษัทต่างชาติที่ถูก นายแพทย์บุญ วนาสิน แอบอ้างได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังข่าวผ่านรอยเตอร์เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ยืนยันว่าไม่มีการเจรจาเรื่องการซื้อขายวัคซีนกับ THG มีเพียงการเจรจากับ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เท่านั้น

ทั้งนี้ จากข่าวดังกล่าวส่งผลให้ นายแพทย์บุญ วนาสิน ถูก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่ง กรณีเผยแพร่ข้อความอันอาจก่อให้เกิดความสำคัญผิดเกี่ยวกับนำเข้าวัคซีน COVID-19 ชนิด mRNA ยี่ห้อ Pfizer ปรับทางแพ่งเป็นเงิน 2,000,000 บาท และชดใช้ค่าใช้จ่ายเนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด รวมเป็นเงินจำนวน 2,348,834 บาท พร้อมห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์เป็นเวลา 42 เดือน หรือ ระยะเวลา 2 ปี

อย่างไรก็ตาม แม้พ้นจากการดำรงตำแหน่งใน THG แต่ นายแพทย์บุญ วนาสิน ยังคงมีเรื่องพฤติกรรมทางธุรกิจที่ชวนให้ต้องสงสัยเกี่ยวกับการทำธุรกรรมลงทุนในโครงการต่างๆ ซึ่งนับเป็นชนวนเหตุนำไปสู่การถูกตั้งข้อหาและกลายเป็นผู้ต้องคดีคนสำคัญ โดยพบว่า เมื่อวันที่  25 พ.ย.67 THG แจ้ง ตลท. หลังพบธุรกรรมทางการเงินต้องสงสัยของบริษัทย่อย 2 แห่ง คือ บริษัท โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง จำกัด หรือ THB และ บริษัท ที เอช เฮลท์ จำกัด หรือ THH ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ THG ให้กู้ยืมเงินจำนวน 6 รายการ ช่วงเดือนธันวาคมปี 65-66 จำนวน 145 ล้านบาท ไปยัง บริษัท ราชธานีพัฒนาการ (2014) จำกัด หรือ RTD รวมทั้งยังให้กู้เงินแก่ บริษัท ไทย เมดิเคิล กรุ๊ป จำกัด จำนวน 10 ล้านบาท ส่วน THH มีรายการสั่งซื้อสินค้าจากบริษัทซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นในประเทศสิงคโปร์ จำนวน 2 รายการ ยอดเงิน 55 ล้านบาท ซึ่ง RTD ที่ THG ในกู้ยืมเป็นบริษัทที่มีครอบครัววนาสินเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

ส่วนประเด็นสำคัญที่นำ นายแพทย์บุญ วนาสิน กลายเป็นผู้ต้องหาในคดี “คดีหลอกลงทุน 5 โครงการทิพย์มูลค่าหมื่นล้าน” เกิดขึ้นช่วงเดือนธันวาคม 2566 ถึงพฤศจิกายน 2567 หลังพบผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง จำนวน 520 คดี มูลค่าความเสียหายรวม 7,500 ล้านบาท ลักษณะความผิดส่วนใหญ่ที่พนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์เบื้องต้นเป็นเรื่องพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค โดยจากข้อมูลพบพฤติการณ์ นายแพทย์บุญ วนาสิน ร่วมกับ นางจารุวรรณ อายุ 79 ปี ภรรยา พร้อมด้วย นางสาวนลิน อายุ 51 ปี โดยให้ทั้ง 2 ลงลายมือชื่อเซ็นค้ำประกันเงินกู้และร่วมกับ โบรกเกอร์ กลุ่มหนึ่งหลอกผู้เสียหายร่วมลงทุนกับตน โดยอ้างว่าจะได้ดอกเบี้ยในอัตราสูง รวมทั้งได้หุ้น THG เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินที่ปล่อยกู้ ซึ่งการระดมทุนครั้งนี้ นายแพทย์บุญ วนาสิน อ้างว่าเพื่อใช้ในการสร้างโครงการทางการแพทย์ 5 แห่ง ได้แก่

1.) โครงการสร้างศูนย์มะเร็งย่านปิ่นเกล้า พื้นที่ 7 ไร่ งบประมาณลงทุน 4,000 ล้านบาท, 2.) โครงการเวลเนส เซ็นเตอร์ ย่านพระราม 3 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างที่พักอาคารสูง 52 ชั้น รองรับผู้สูงอายุ 400 ห้อง งบประมาณลงทุน 4,000-5,000 ล้านบาท, 3.) โครงการโรงพยาบาลในลาว 3 แห่ง แบ่งเป็นเวียงจันทน์ 2 แห่ง จำปาสัก 1 แห่ง, 4.) โครงการเข้าร่วมทุนกับโรงพยาบาลในเวียดนาม งบประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท และ 5.) โครงการสร้าง Medical intelligence ทำหน้าที่ด้านไอที ใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท ขณะที่ จากการตรวจสอบกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 แจ้งว่าไม่เคยมีอยู่จริง

ทั้งนี้ ชื่อเสียง ตำแหน่งแพทย์ ใช่ว่าจะการันตีความน่าเชื่อถือได้เสมอไป จากเหตุการณ์ดังกล่าวนับว่าเป็นข่าวสะเทือนวงการตลาดทุนพอๆ กับคดีฉ้อโกงประชาชนของ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK โดย นายแพทย์บุญ วนาสิน ถูกกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 กล่าวหาพร้อมออกหมายจับในความผิดหลายข้อหา คือ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน, ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค

อย่างไรก็ตาม ภายหลังข่าวดังกล่าวเผยแพร่ ถัดมาวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 ราคาหุ้น บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ได้ปรับตัวขึ้นอยู่ที่ระดับ 17.60 บาท บวก 1.70 บาท หรือ 10.69% สูงสุดที่ระดับ 19.20 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 15.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 168.24 ล้านบาท สวนกระแสข่าวด้านลบ เนื่องมาจาก THG ได้แจ้งต่อ ตลท. ว่าบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องคดี “หมอบุญ” หลอกลงทุน 5 โครงการเวลเนสทิพย์แต่อย่างใด และชี้แจงถึงกรณีการดำรงตำแหน่งของ นางจารุวรรณ อายุ 79 ปี ภรรยา พร้อมด้วย นางสาวนลิน อายุ 51 ปี ว่าจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏในปัจจุบัน และตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายการที่ทั้งสองท่านถูกแจ้งข้อกล่าวหายังมิได้ส่งผลให้ทั้งสองท่านขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทฯ เนื่องจากข้อกล่าวหาดังกล่าวยังอยู่ ระหว่างกระบวนการพิจารณาทางกฎหมาย และยังไม่มีคำตัดสินถึงที่สุด

ส่วนความคืบหน้าคดีในปัจจุบัน นางจารุวรรณ ภรรยาและนางสาวนลิน บุตรสาวของ นายแพทย์บุญ วนาสิน ถูกจับกุมตัวหลังจากที่ทั้งสองให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด โดยอ้างว่าลายเซ็นในเอกสารคำประกันเงินกู้ถูกปลอมแปลง ขณะที่การจับกุมตัว นายแพทย์บุญ วนาสิน ซึ่งหลบหนีออกนอกประเทศนั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2567 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้าพบเพื่ออัพเดตความคืบหน้าของคดี

“คดีนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพราะเกี่ยวข้องกับการหลอกลวงและสร้างความเสียหายต่อประชาชนอย่างกว้างขวาง และในปีหน้า จะมีมาตรการที่เป็นรูปธรรม รวมถึงการปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัย เพื่อป้องกันอาชญากรรมในรูปแบบใหม่ และเพิ่มความปลอดภัยให้กับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน” นางสาวแพทองธาร กล่าว

อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวถูกส่งไปยัง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กระทรวงยุติธรรม ซึ่งได้ประสาน ตำรวจสากล เพื่อออกหมายจับแดง โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถจับกุมตัว นายแพทย์บุญ วนาสิน มาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ในปี 2568

Back to top button