BGRIM ปิดดีล “ดาต้า เซ็นเตอร์” ครึ่งแรกปี 68 ขายไฟ 200 เมกฯ โบรกแนะสะสม เป้า 32 บ.
BGRIM เดินหน้าเซ็นสัญญาขายไฟลูกค้ากลุ่ม “ดาต้า เซ็นเตอร์” จำนวน 2-3 ราย รวม 100-200 เมกะวัตต์ พร้อมปิดดีลลงทุนธุรกิจ Data Center รวม 40-100 เมกะวัตต์ ช่วงครึ่งแรกปี 68 โบรกมองบวกกำไรปีนี้เติบโตดี แนะทยอยสะสมเป้า 32 บาท
นายนพเดช กรรณสูต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจในประเทศไทยและโซลูชันธุรกิจอุตสาหกรรม บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการหารือเพื่อป้อนไฟฟ้าให้กับกลุ่มลูกค้า Data center คาดว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 จะสามารถลงนามสัญญาขายไฟฟ้ากับกลุ่มลูกค้า Data center จำนวน 2-3 ราย รวม 100-200 เมกะวัตต์
ขณะเดียวกัน ในด้านการลงทุนธุรกิจ Data center ที่ศึกษาไว้ประมาณ 40-100 เมกะวัตต์ ก็คาดการณ์ว่าจะได้ข้อสรุปภายในครึ่งแรกปี 2568 ซึ่งคาดการณ์ว่าจะใช้เงินลงทุนในส่วนนี้ประมาณ 5-7 พันล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งเป้าขยายการลงทุนในธุรกิจ Data center เพิ่มขึ้นอีกในอนาคต อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าความต้องการใช้ไฟฟ้าของธุรกิจ Data Center จะเพิ่มขึ้นเป็น 300-500 เมกะวัตต์
นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม BGRIM กล่าวก่อนหน้านี้ว่า แผนกลยุทธ์สำคัญสำหรับปี 2568 ได้แก่ การเติบโตของพลังงานหมุนเวียน และ การขยายธุรกิจในระดับโลก ตั้งเป้ากำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนรวม 10 กิกะวัตต์ภายในปี 2573 การเป็นพันธมิตรด้านพลังงานสำหรับ Data Centers มุ่งสู่การเป็นพันธมิตรหลักในการจัดหาพลังงานให้กับ Data Centers ในประเทศไทย
โดยร่วมกับนิคมอุตสาหกรรมอมตะ เพื่อจัดหาพลังงานหมุนเวียนและให้บริการโซลูชันพลังงานครบวงจร รองรับความต้องการของ Data Centers ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ชลบุรี และการจัดสรรเงินทุน (Capital Allocation) อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาวและยั่งยืน โดยวางแผนการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ในช่วงปี 2567-2573 รวม 1.36 แสนล้านบาท เน้นลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียนถึง 85%
ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หุ้น BGRIM มองเป็นจังหวะทยอยสะสมรอบใหม่ ให้ราคาเป้าหมายที่ 32 บาท เบื้องต้นคาดว่ากำไรปกติงวดไตรมาส 4/2567 จะอยู่ที่ระดับ 400-450 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน จากปริมาณการขายไฟฟ้าที่มีแนวโน้มเติบโต ตามการเชื่อมต่อกับกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) ใหม่อีก 10-15 เมกะวัตต์ และการไม่ได้รับผลกระทบจากการตรึงค่าไฟฟ้าไว้ที่ระดับ 3.99 บาทต่อหน่วย เหมือนปีก่อน
สำหรับแนวโน้มในปี 2568 คาดว่ากำไรปกติจะยังสามารถเติบโต เมื่อเทียบกับปีก่อน แม้มีการปรับลดค่าไฟฟ้าลง เพราะคาดต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลงจะสามารถชดเชยผลกระทบได้ รวมถึงบริษัทจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการพลังงานลมในเกาหลีใต้ ขนาด 179 เมกะวัตต์ในช่วงครึ่งหลังปี 2568 นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อขายไฟฟ้าให้กับกลุ่มลูกค้าดาต้าเซ็นเตอร์ จำนวน 4-5 ราย ขนาดรวม 300-500 เมกะวัตต์ รวมถึงอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนในธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์