จับตา “4 หุ้นความหวาน” เซ่น “จีน” เมินผ่อนผัน “ไทย” ส่งออก “ไซรัป-น้ำตาลผสมล่วงหน้า”

จับตาราคาหุ้นกลุ่มน้ำตาล หลัง “จีน” ไม่ผ่อนผันอนุญาตให้ “ไทย” ส่งออก “ไซรัป-น้ำตาลผสมล่วงหน้า” เข้าประเทศ หลังพบว่ามีสุขอนามัยไม่ได้เกณฑ์มาตรฐาน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ หน่วยงานความปลอดภัยด้านอาหารส่งออก-นำเข้าของจีน หรือ The Food Safety Bureau of The General Administration of Customs of The People’s Republic of China : GACC ออกประกาศระงับการนำเข้าสินค้าประเภทน้ำตาลจากประเทศไทย 2 รายการ ได้แก่ น้ำเชื่อม (Syrup) กับน้ำตาลผสมล่วงหน้า (Pre-mixed powder)

ทั้งนี้ เนื่องจากมีการตรวจพบความเสี่ยงทางด้านความปลอดภัยของอาหารและไม่สอดคล้องกับข้อบังคับและกฎระเบียบของจีน หลังจากที่ GACC ได้รับการร้องเรียนว่า โรงงานผู้ผลิตน้ำเชื่อม/น้ำตาลผสมบางแห่งมีสุขอนามัยไม่ได้เกณฑ์มาตรฐานตามกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัยอาหารแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมกับแนะนำฝ่ายไทยให้ดำเนินการประเมินและตรวจสอบระบบบริหารและจัดการความปลอดภัยของโรงงานไทย

โดยคำสั่งของ GACC จะมีผลบังคับใช้ 2 ประการคือ 1.จีนจะระงับการยื่นเรื่องขอขึ้นทะเบียนโรงงานผู้ผลิตส่งออกน้ำเชื่อม/น้ำตาลผสมรายใหม่จากประเทศไทย และ 2.โรงงานผู้ส่งออกไทยที่ขึ้นทะเบียนกับทาง GACC ไว้ก่อนหน้านี้และมีการส่งออกสินค้าน้ำเชื่อม/น้ำตาลผสมออกจากประเทศไทยก่อนวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมาจะได้รับการผ่อนผันให้นำเข้าได้ ส่วนน้ำเชื่อม/น้ำตาลผสมที่ส่งออกจากประเทศไทยหลังวันที่ 10 ธ.ค. จะถูกระงับการนำเข้าจีนเช่นกัน

ล่าสุดวันนี้ (5 ม.ค.68) น.สพ.ชัยวัฒน์ โยธคล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าว ฝ่ายไทยโดย มกอช. ได้รวบรวมรายชื่อผู้ประกอบการที่มีการส่งออกสินค้ากลุ่มดังกล่าวในช่วงคาบเกี่ยวกับการประกาศระงับนำเข้าของจีน โดยมีหนังสือถึง GACC ผ่าน สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศประจำกรุงปักกิ่ง (สปษ.ปักกิ่ง) เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2567 แจ้งขอผ่อนผันการอนุญาตนำเข้าสินค้าจากผู้ประกอบการ 2 กลุ่ม ได้แก่

1.ผู้ประกอบการที่ส่งออกสินค้า (เรือออกจากท่า) ในวันที่ 10 ธ.ค. 2567 ซึ่งผลการพิจารณาของฝ่ายจีน อนุญาตให้นำเข้าสินค้าจากผู้ประกอบการตามรายชื่อที่ มกอช. เสนอไปทั้งหมด ซึ่งช่วยบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบการในกลุ่มนี้

2.ผู้ประกอบการที่สินค้าผ่านกระบวนการศุลกากรเพื่อการส่งออกตั้งแต่ก่อนหรือในวันที่ 10 ธ.ค.2567 แต่เรือออกจากท่าภายหลังวันที่ 10 ธ.ค. 2567 ส่วนนี้เป็นการขอเจรจาต่อรองกับฝ่ายจีนเพิ่มเติม เนื่องจาก มกอช. ได้รับทราบว่ามีผู้ประกอบการหลายรายได้รับผลกระทบจากการระงับนำเข้าอย่างกะทันหันของจีน เนื่องจากสินค้าบางส่วนที่ผ่านพิธีการศุลกากรและขนเข้าท่าเรือแล้วตั้งแต่ก่อนวันที่ 10 ธ.ค. 2567 แต่ยังอยู่ระหว่างรอกำหนดเรือออกจากท่า ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนการขนส่งทางเรือระหว่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 3 ม.ค.68 เวลา 15:30 น. สปษ.ปักกิ่งได้รับแจ้งจาก GACC ว่า ไม่ผ่อนผันอนุญาตนำเข้าให้สินค้าที่ออกจากไทยหลังวันที่ 10 ธ.ค. เนื่องจากจีนถือว่าวันที่ 10 ธ.ค. 2567 เป็นวันเริ่มบังคับใช้คำสั่งระงับนำเข้า

“ขณะนี้ มกอช. ร่วมกับ อย. อยู่ระหว่างเร่งจัดทำข้อมูลเพื่อเสนอขอยกเลิกการระงับนำเข้า โดยจะจัดส่งแนวทางการควบคุมความปลอดภัยอาหารในระบบการผลิตอาหารของไทย ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดในประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับ 420 ที่กำกับดูแลโดย อย. พร้อมทั้งส่งรายชื่อผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองจาก อย. แล้ว เพื่อขอให้จีนพิจารณายกเลิกระงับนำเข้าต่อไป”

ทั้งนี้ จากประเด็นดังกล่าว จึงเป็นที่น่าจับตาสำหรับหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับน้ำตาล ได้แก่ บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR, บริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KTIS, บริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ KBS และ บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ KSL ว่าจะตอบรับกับประเด็นดังกล่าวอย่างไร

Back to top button