“จุลพันธ์” แจงไทม์ไลน์ ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 ทดสอบระบบก่อน จ่อยกเลิก “หวย N3”
ครม.นัดแรกของปี 68 เตรียมเคาะสินเชื่อ SME “จุลพันธ์” แจงไทม์ไลน์ “ดิจิทัลวอลเล็ต” เฟส 3 มี.ค. แค่ระบบเสร็จ ขณะ “หวย N3” ยกเลิกแน่หากไม่ปัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 ม.ค.68) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยืนยันว่า โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านกระเป๋า ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 จะเริ่มในไตรมาส 2 ปี 2568 โดยคาดว่า ระบบจะแล้วเสร็จภายในเดือนมี.ค.นี้ หลังจากนั้นจะมีการทดสอบระบบเพื่อให้มั่นใจในความสมบูรณ์ก่อนการใช้งานจริง
ทั้งนี้ การพัฒนาระบบสำหรับเฟส 3 จะเสร็จสิ้นในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. หลังจากนั้น ทาง สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA ก็จะต้องมีการทดสอบระบบ และมีความคิดว่าอาจจะต้องทำเป็น sandbox ด้วยหรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ ก่อนที่จะเริ่มจ่ายเงินในไตรมาส 2 ปี 2568 ตามแผนที่วางไว้
นอกจากนี้ นายจุลพันธ์ ยังกล่าวย้ำถึงความพร้อมในการดำเนินการแจกเงินหมื่น เฟส 2 ที่มุ่งเน้นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป คาดว่า จะจ่ายเงินไม่เกินวันที่ 29 ม.ค.นี้ โดยขณะนี้มีความพร้อมค่อนข้างมากแล้ว
“สลาก N3” ส่อไปไม่รอด
นายจุลพันธ์ ยังกล่าวถึงการจำหน่ายสลาก N3 หรือ สลากเลขสามตัว ที่ผู้ซื้อสามารถเลือกหมายเลขเองได้ ซึ่งเปิดตัวมาแล้วประมาณ 2-3 เดือน และอยู่ในช่วงทดลองจนถึงเดือนเมษายนนี้ อย่างไรก็ตามต้องพิจารณาว่า สลาก N3 สามารถทดแทนสลากแบบใบหรือสลากออนไลน์ที่มีอยู่แล้ว หรือสามารถแข่งขันกับหวยใต้ดินได้หรือไม่ หากไม่สามารถทำได้ แต่กลับมากระทบต่อตลาดสลากปกติของกองสลากเอง อาจต้องพิจารณายกเลิกการจำหน่ายสลาก N3
การประเมินผลจะดำเนินการหลังสิ้นสุดระยะทดลอง โดยจะสรุปบทเรียนและพิจารณาว่า สลาก N3 ควรดำเนินการต่อหรือไม่ หากไม่สามารถทดแทนหวยใต้ดินได้อย่างที่คาดหวังไว้
“ถ้าเกิดว่าไม่ได้มีผลในทางบวกที่เราคาดหวัง โดยเฉพาะเรื่องของการไปทดแทนสินค้าซึ่งอยู่นอกระบบหรือหวยใต้ดิน ก็ต้องมานั่งทบทวนกันอีกครั้งหนึ่งว่ามีความเหมาะสมหรือไม่อย่างไร” รมช.คลัง กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 ม.ค.68) เวลา 10:00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรกของปี 2568
โดยมีวาระการประชุมที่น่าสนใจ อาทิ
กระทรวงการคลัง เสนอโครงการสินเชื่อปลุกพลัง SME และโครงการสินเชื่อ Beyond ติดปีก SME ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank)
สำนักงบประมาณ เตรียมเสนอกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่าย และโครงสร้างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 หลังจากผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมร่วม 4 หน่วยงานเศรษฐกิจ ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง, สำนักงบประมาณ, สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กรอบวงเงินงบประมาณ 3,780,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณก่อน 0.7% โดยจะมีการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 860,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 4.3% ต่อ GDP พร้อมกำหนดสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ที่ 67.3% โดยมีหนี้สาธารณะคงค้างอยู่ที่ 13,461,963 ล้านบาท
ขณะที่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เสนอขออนุมัติเห็นชอบการแก้ไข พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 เพื่อยกระดับการจัดการปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเน้นการเร่งคืนเงินผู้เสียหาย กรณีอายัดบัญชีม้า พร้อมเพิ่มโทษการซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคล จากเดิมจำคุก 1 ปี เป็น 5 ปี เพื่อให้บังคับใช้ภายในเดือน ม.ค.68 ซึ่งกฎหมายดังกล่าวจะเพิ่มความรับผิดชอบของสถาบันการเงิน (ธนาคาร) และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ หากละเลยหรือไม่ดูแลระบบที่เอื้อต่อการหลอกลวงออนไลน์ รวมถึงมาตรการป้องกันการโอนเงินผิดกฎหมายผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล