อัยการสั่งไม่ฟ้อง “มีน-แซม” คดีดิไอคอน หลังหลักฐานไม่พอ ศาลสั่งปล่อยตัวแล้ว
อัยการสั่งไม่ฟ้อง “มีน-แซม” คดีดิไอคอนกรุ๊ป รอดทุกข้อกล่าวหา โดยศาลสั่งปล่อยตัวจากเรือนจำแล้ว เหตุพยานหลักฐานไม่เพียงพอเอาผิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (8 ม.ค.68) นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวมคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 คดีระหว่าง นายณัฏฐ์ ธนาพิพัฒน์ดลภัค กับพวก ผู้กล่าวหาบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด โดยมีนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล ผู้ต้องหาที่ 1 กับพวกรวม 19 คน ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรง ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงดำเนินกิจการในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจ โดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทน จากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าว
โดยคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต” เหตุเกิดระหว่างวันที่ 12 สิงหาคม 2563 ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ในท้องที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร และหลายท้องที่ทั่วราชอาณาจักรต่อเนื่องกัน คิดเป็นค่าเสียหายรวมประมาณ 649,912,290 บาท อีกทั้งเนื่องจากคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก และเป็นคดีที่ประชาชน และสื่อมวลชนให้ความสนใจ ถือเป็นคดีสำคัญตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด จึงได้มีคำมีตั้งคณะทำงานร่วมพิจารณา บัดนี้สำนักงานคดีพิเศษได้พิจารณาสำนวนดังกล่าวแล้วมีความเห็น และมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งบุคคล และนิติบุคคล 17 ราย ดังนี้
บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด โดยมีนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล กรรมการผู้มีอำนาจ ผู้ต้องหาที่ 1, นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ผู้ต้องหาที่ 2, นายจิระวัฒน์ แสงภักดี หรือ บอสแล็ป ผู้ต้องหาที่ 3, นายกลด เศรษฐนันท์ หรือ บอสปีเตอร์ ผู้ต้องหาที่ 4, น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือ บอสปัน ผู้ต้องหาที่ 5
นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ หรือ บอสหมอเอก ผู้ต้องหาที่ 6, นางนัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์ หรือ บอสสวย ผู้ต้องหาที่ 7, น.ส.ญาสิกัญจณ์ เอกชิสนุพงศ์ หรือ บอสโชดา ผู้ต้องหาที่ 8, นายนันทธรัฐ เขาวนปรีชา หรือ บอสโอม ผู้ต้องหาที่ 9, นายธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ หรือ บอสวิน ผู้ต้องหาที่ 10
น.ส.กนกธร ปูรณะสุคนธ์ หรือ บอสแม่หญิง ผู้ต้องหาที่ 11, นส.เสาวภา วงษ์สาขา หรือ บอสอูมมี่ ผู้ต้องหาที่ 12, นายเชษฐ์ณภัฏ อภิพัฒนกานต์ หรือ บอสทอมมี่ ผู้ต้องหาที่ 13, นายหัสยานนท์ เอกชิสนุพงศ์ หรือ บอสป๊อบ ผู้ต้องหาที่ 14, นางวิไลลักษณ์ ยาวิชัย หรือ บอสจอย ผู้ต้องหาที่ 15, นายธนะโรจน์ ธิติจริยาวัชร์ หรือ บอสออฟ ผู้ต้องหาที่ 16 และนายกันต์ กันตถาวร หรือ บอสกันต์ ผู้ต้องหาที่ 19
ทั้งนี้ตามข้อกล่าวหา ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรง ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงดำเนินกิจการในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเหรือข่ายในการประกอบธุรกิจ โดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทน จากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต
อย่างไรก็ตาม สั่งไม่ฟ้อง นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือ “แซม ยุรนันท์” ผู้ต้องหาที่ 17 และ น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือ “มิน ชญา” ผู้ต้องหาที่ 18 ตามขอกล่าวหา ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรง ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง ดำเนินกิจการในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจ โดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทน จากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 3, 19, 20, 38, 46, 47,54
โดยเบื้องต้นสาเหตุที่สั่งไม่ฟ้อง นายยุรนันท์ และ น.ส.พีชญา คือ พยานหลักฐานเบื้องต้นไม่พบว่ากระทำความผิดตามข้อกล่าวหา
ทั้งนี้ครอบครัวและแฟนหนุ่มได้เดินทางไปรับ น.ส.พีชญา จากทัณฑสถานหญิงกลาง ซึ่งต่อมา น.ส.พีชญา ที่สวมเสื้อสีขาวและสวมหมวกนั่งอยู่ภายในรถ ได้เปิดกระจกมาให้สัมภาษณ์สั้น ๆ ว่า ขอขอบคุณกระบวนการยุติธรรมและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งแฟนคลับ และขอบคุณที่ดูแลมินเป็นอย่างดี ตอนนี้ขอกลับไปพักฟื้น เพราะน้ำหนักลดลงมาก
ส่วนขั้นตอนทางกฎหมายที่สำนวนสั่งไม่ฟ้อง ถูกส่งไปให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษพิจารณาว่าจะเห็นพ้องหรือแย้งกับคำสั่งดังกล่าวอย่างไรนั้น ขอยังไม่ตอบคำถาม ขณะนี้ขอกลับไปอยู่กับครอบครัวก่อน
เช่นเดียวกับ แซม ยุรนันท์ ถูกปล่อยตัวจากเรือนจำแล้ว โดยแซมใส่เสื้อลายสีดำ-เทา สวมหน้ากากอนามัย หมวกแก๊ปสีดำ อุ้มพระพุทธรูป ด้าน มุก มาริษา ภรรยา เดินออกมาคู่กันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม หลังจากนั้นแซมเข้ามากอดคนที่มารอรับ และกอด แมมโบ้ ยุรการ (ลูกชาย) จากนั้น แซม ก็ยืนพูดคุยกับคนที่มารอรับ และเข้ามากอด มายด์ ยุรริษา (ลูกสาว)
หลังจากนั้น แซม ยุรนันท์ ยกมือไหว้สื่อมวลชน และบอกเพียงสั้นๆ ว่า ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม ตอนนี้ขอกลับบ้านก่อน เดี๋ยวค่อยว่ากัน ก่อนจะขึ้นรถไปทันที โดยไม่ตอบคำถามสื่อมวลชนแต่อย่างใด และยกมือไหว้ โบกมือ จากนั้นรถก็ขับออกไปทันที