“สรรพากร” มั่นใจปี 68 เก็บรายได้ 2.37 ล้านลบ. โต 5% ดึงขายของออนไลน์เข้าระบบ

กรมสรรพากร ตั้งเป้าหมายจัดเก็บรายได้ปี 68 ที่ 2.37 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากช่วงปีก่อน ดึงขายของออนไลน์เข้าระบบ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 ม.ค.68) นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ภาพรวมการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากร ช่วง 3 เดือนแรก ปีงบประมาณ 2568 (ต.ค.-ธ.ค.67) จัดเก็บรายได้แล้ว รวม 4.7 แสนล้านบาท สูงกว่าประมาณการ เกือบ 4,000 ล้านบาท

โดยส่วนใหญ่มาจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เพิ่มขึ้น 12% เฉลี่ยเดือนละ 5,000 ล้านบาท เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ขยายตัวดีขึ้นส่งผลให้การบริโภคในประเทศปรับตัวดีขึ้น ทำให้คาดว่าแนวโน้มการจัดเก็บรายได้ในช่วง 7 เดือนของปีงบประมาณ 2568 (ต.ค.67-เม.ย.68) จะเป็นไปตามเป้าหมาย

ทั้งนี้ เป้าหมายการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากร ในปีงบประมาณ 2568 อยู่ที่ 2.37 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน

อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวอีกว่า ช่วงครึ่งหลังของปีงบประมรณ 2568 ยังมีปัจจัยที่ท้าทายอย่างหลาย โดยเฉพาะการยื่นแบบของนิติบุคคลรอบครึ่งปีซึ่งจะเป็นการยื่นแบบตามผลประกอบการในครึ่งปีที่ผ่านมา โดยเศรษฐกิจในช่วงนั้นยังไม่สามารถขยายตัวได้มากนัก ดังนั้น อาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของผู้ประกอบธุรกิจ และส่งผลต่อการชำระภาษีด้วย

นายปิ่นสาย กล่าวด้วยว่า ในช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค.68 เป็นช่วงของการยื่นแบบชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรมสรรพากรขอให้ผู้มีรายได้เข้ามายื่นแบบ โดยเฉพาะในกลุ่มที่ไม่มีรายได้ประจำ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ประกอบอาชีพอิสระ เช่น กลุ่มค้าขายแบบซื้อมาขายไป การค้าขายแบบออนไลน์ กลุ่มอินฟูลเอนเซอร์ เพราะหากตรวจพบว่าไม่มายื่นแบบชำระภาษีเงินได้ จะต้องจ่ายค่าปรับเงินเพิ่มตามกฎหมาย

อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวด้วยว่า ปีนี้กรมฯ จะมุ่งเน้นขยายฐานภาษีไปยังกลุ่มธุรกิจออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งข้อมูลในกลุ่มนี้ จะส่งต่อให้ฝ่ายจัดเก็บไปให้ความรู้ ดังนั้น กรมฯ จึงขอแนะนำให้ผู้ที่มีเงินได้ ไม่ใช่แค่เงินเดือน แต่รวมถึงผู้ประกอบอาชีพอิสระ พ่อค้าแม่ขาย การขายของออนไลน์ หรืออินฟลูเอนเซอร์ ยื่นแบบแสดงภาษีไว้ก่อน หากตรวจเจอภายหลัง จะโดนปรับหนัก ทั้งโทษปรับ 2 เท่าของภาษี และยังมีโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี ดังนั้นหากไม่รู้ว่าจะดำเนินการอย่างไร สามารถมาขอคำแนะนำจากกรมสรรพากรเขตพื้นที่ได้

สำหรับข้อมูลในปีภาษี 2566 มีประชาชนยื่นแบบชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ราว 11 ล้านคน โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ที่ขอคืนภาษี 4 ล้านคน ส่วนอีกเกือบ 7 ล้านคนต้องเสียเพิ่มหรือเสียเท่าเดิม คิดเป็นวงเงินในการขอคืนภาษีกว่า 3 หมื่นล้านบาท

Back to top button