SET สัปดาห์นี้ “ฟื้นตัว” จับตาเงินเฟ้อสหรัฐ – GDP จีนไตรมาส 4 ชู ADVANC-GULF-PTTEP เด่น

บล.กรุงศรี ชี้ SET สัปดาห์นี้ “ฟื้นตัว” เกาะติดสัมมนา “Chat with TONY” ผลประชุมแก้ไขกฎหมายพนันออนไลน์ และมาตรการ Easy E-Receipt โบรกแนะหุ้นเด่น ADVANC-GULF-PTTEP มองกรอบดัชนีแนวรับ 1,352 – 1,338 จุด แนวต้าน1,383-1,395 จุด


“สำนักข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้รวบรวมกลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้ระหว่างวันที่ (13 – 17 ม.ค.68) โดยเป็นบทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ซึ่งประเมินตลาดหุ้นไทย “ฟื้นตัว” ให้แนวรับที่ 1,352 – 1,338 จุด แนวต้าน 1,383-1,395 จุด ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อดัชนี SET Index ในช่วงสัปดาห์นี้ ฝ่ายนักวิเคราะห์แนะนำให้นักลงทุนติดตาม คือ วันที่ 13 ม.ค. ติดตามข้อมูลงานสัมมนา Chat with TONY: Bull Rally Thai Capital Market” โดยมีอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ให้ข้อมูล

พร้อมกับติดตามการเปิดเผยข้อมูลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งจะมีการหารือแนวทางการแก้ไขกฎหมายเพื่อนำธุรกิจพนันออนไลน์มาอยู่ในระบบ รวมไปถึงการรายงานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางเข้าประเทศไทย รายสัปดาห์

ส่วนวันที่ 14 ม.ค. ติดตามรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค. 67 ซึ่งฝ่ายนักวิเคราะห์ไม่มีการคาดการณ์ ทั้งนี้หากเปลี่ยนเทียบกับเดือนที่ผ่านมา ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวอยู่ที่ 56.9 จุด

นอกจากนี้ ในวันเดียวกันแนะนำนักลงทุนติดตามการประกาศงบไตรมาส 4/67 ของกลุ่มธนาคาร นำโดย บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO ซึ่งคาดการณ์ประกาศงบในวันที่ 17 ม.ค.

โดยกลุ่มธนาคารที่เหลือคาดการณ์เริ่มทยอยรายงานสัปดาห์ถัดไปช่วงวันที่ 20-21 ม.ค.68 โดยสำหรับหรับกลุ่มธนาคารที่ฝ่ายนักเคราะห์ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 4/67 โดยรวมแล้วอยู่ที่ 4.90 หมื่นล้านบาท  กำไรเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคาดการณ์ได้รับปัจจัยสนับสนุน อาทิ  1.) การเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียม-บริการ, 2.) การลดลงของค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL)

ทั้งนี้ฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์กำไรลดลง 11% จากไตรมาสก่อนหน้าสืบเนื่องมาจากปัจจัยกดดัน อาทิ 1.) การลดลงของอัตราดอกเบี้ยที่บริษัทได้รับจากการปล่อยสินเชื่อ (yield on loan), 2.) การลดลงของเงินลงทุน (FVTPL) และ 3.) การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายตามฤดูกาล อย่างไรก็ตามทางพื้นฐานฝ่ายนักวิเคราะห์มีความชื่นชอบหุ้นกลุ่มธนาคาร 2 บริษัท คือ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK และ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ขณะที่ในวันที่ 16 ม.ค. ติดตามผลของนโยบาย Easy E-Receipt เริ่มมีผลคาดการณ์สนับสนุนภาพบริโภคให้กลับมาคึกคัก

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยนอกประเทศที่ส่งผลต่อดัชนี SET Index ซึ่งในวันที่ 14 ม.ค. ติดตามการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อ PPI ประจำเดือนธ.ค. 67 สหรัฐซึ่งฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์ ขยายตัว 0.4% เท่าเดือนก่อนหน้า

ส่วนวันที่ 15 ม.ค. ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ประจำเดือน ธ.ค.67  คาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไป ขยายตะว 2.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน, และชยายตัว 0.3% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งหากเปรียบเทียบกับตัวเลขเดือนก่อนเงินเฟ้อขยายตัว 2.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และขยายตัว 0.3%  เปรียบระหว่างเดือนที่ผ่านมา เงินเฟ้อพื้นฐาน คาดการณ์ ขยายตัว 3.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน, และขยายตัว 0.2% เปรียบระหว่างเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขยายตัว 3.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และขยายตัว 0.3% เป็นการเปรียบระหว่างเดือนที่ผ่านมา

อีกทั้ง แนะนำนักลงทุนติดตามข้อมูลเศรษฐกิจประเทศจีน วันที่ 17 ม.ค. ซึ่งจะมีการรายงาน GDP ไตรมาส 4/67 ซึ่งฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์ ขยายตัว 5.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน ขยายตัว 4.6%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

พร้อมทั้งติดตามดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจจีนประจำเดือน ธ.ค.67 ได้แก่ 1.) ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม คาดการณ์ ขยายตัว 5.4% เท่าเดือนก่อน, 2.) ดัชนีค้าปลีก คาดการณ์ ขยายตัว 3.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน ขยายตัว 3.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน, 3.) ติดตามการลงทุนสินค้าคงทน คาดการณ์ ขยายตัว 3.3% นับจากต้นปีมาถึงช่วงเวลาปัจจุบัน และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เท่าเดือนก่อน รวมทั้ง 4.) ติตามการลงทุนภาคอสังหาทรัพย์คาดการณ์ ลดลง 0.4% นับจากต้นปีมาถึงช่วงเวลาปัจจุบัน และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เท่าเดือนก่อน

สุดท้ายแนะนำนักลงทุนติดตาม การรายงานเงินเฟ้อ CPI ประจำเดือน ธ.ค.67 ของยุโรป ซึ่งฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไป ขยายตัว 2.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และขยายตัว 0.3% เปรียบระหว่างเดือนที่ผ่านมา ซึ่งหากเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าขยายตัว 2.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน, แต่ลดลง 0.3% เมื่อเปรียบระหว่างเดือนที่ผ่านมา ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน คาดการณ์ขยายตัว 2.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าขยายตัวอยู่ที่ 2.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ กลยุทธ์การลงทุน ภายหลังการประเมิน SET Index “ฟื้นตัว” อยู่ในโซนลงทุน Equity Risk Premium แตะ 4.0% (+/-) อยู่ในระดับ AVG + 1 S.D. จุดกลับตัวภาวะปกติ หลังจากสะท้อนความกังวลนอกและใน อาทิ US Bond Yield เร่งขึ้น, ความเข้มงวดการกำกับดูแล แต่รายงานภาคแรงงานคืนนี้ที่มีโอกาสอ่อนลง

อีกทั้งตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ที่ตลาดมองล่วงหน้าเร่งขึ้นไปแล้ว ขณะที่ภายในความเชื่อมั่นตลาดทุนไทยมีโอกาสกลับมา เพิ่มขึ้น โดยแนะนำติดตามข้อมูลงานสัมมนาChat with TONY: Bull Rally Thai Capital Market” และมาตรการ Easy E-Receipt มี ผล โดยมีหุ้นฟื้นตัว อาทิ กลุ่ม Dividend และ Defensive ฃอาทิ กลุ่มสื่อสาร และธนาคาร

ส่วนกลุ่มได้ประโยชน์ Easy E-Receipt ได้แก่ ค้าปลีก โดยฝ่ายนักวิเคราะห์มีหุ้นเด่นแนะนำประจำสัปดาห์ ได้แก่

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ซึ่งคาดการณ์ว่าธุรกิจอยู่ในช่วง Upcycle และ ลุ้นปันผลครึ่งหลังปี 67 เป็นอีกแรงสนับสนุน แนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 305 บาท

บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์แรงกดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US Bod Yield) ปรับตัวลดลง หลังสหรัฐฯรายงานภาคตัวเลขจ้างงาน ผนวกกับนโยบาย Trump 2.0 มีโอกาสไม่เร่งตัวเท่าที่ตลาดกังวลไปก่อนหน้า ซึ่งแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 60.50 บาท

บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP คาดการณ์ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น และนโยบาย Trump 2.0 มีโอกาสไม่เร่งเท่าตลาดกังวลไปก่อน โดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 140 บาท

นอกจากนี้ แนะนำนักลงทุนติดตามทิศทาง “ฟันด์โฟลว์” ซึ่งสัปดาห์ที่แล้วเงินทุนไหลเข้า (หุ้น+พันธบัตร) ภูมิภาค Asia (exJ) อยู่ที่ 615.9 ล้านเหรียญฯ ขณะที่ไทยเงินไหลออก 136.7 ล้านเหรียญฯ (ขายหุ้น -39.7 ล้านเหรียญฯ ขาย พันธบัตร -97.0 ล้านเหรียญฯ) ส่วนเงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบระหว่างสัปดาห์ที่ 34.6 +/-บาท

Back to top button