จับตาหุ้นท่องเที่ยว-บริการเด้ง! รับ “ครม.” ไฟเขียวร่างพ.ร.บ. “เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ”
จับตา! หุ้นท่องเที่ยว-บริการเด้ง! รับ “ครม.” ไฟเขียวร่างพ.ร.บ. “เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์” ส่งกฤษฎกาพิจารณาก่อนเข้าสู่สภา ชูหุ้นเด่นของกลุ่ม AOT, BTS,VGI,CPALL,BJC,BA
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการรวบรวมข้อมูลหลักทรัพย์กลุ่มท่องเที่ยว-บริการ คาดจะได้ประโยชน์จากประเด็นนายกรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) วันนี้(13 ม.ค.68)
โดยวันนี้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม. เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ส่งเสริมการลงทุน และแก้ไขปัญหาการพนันผิดกฎหมาย ซึ่งจะก่อให้เกิดผลดีต่อภาพรวมของสังคม และอยากให้มีการดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพราะจะเป็นประโยชน์เหมือนในประเทศสิงคโปร์ที่ช่วยให้จีดีพีเพิ่มมากขึ้น
“ต้องยอมรับความจริงว่าทุกวันนี้มีการพนันเต็มไปหมด จะแก้เรื่องผู้มีอิทธิพลก็เอามาทำให้ถูกกฎหมายทั้งหมด”
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการกฤษฎีกามีการตั้งข้อสังเกต 6 ประเด็นนั้นเป็นความเห็นจากการสอบถามไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยผู้บริหารสำนักงานกฤษฎีกายืนยันว่าไม่ได้ขัดขวางการดำเนินโครงการดังกล่าวตามที่มีข่าว แต่เสนอให้มีการปรับรายละเอียดโครงการตามข้อกฎหมาย ซึ่งภายหลังจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการตรวจสอบความถูกต้องแล้ว จะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
ด้านบล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ว่า ครม. เห็นชอบร่าง พรบ. สถานบันเทิงครบวงจร เตรียมส่งกฤษฎีกาดูรายละเอียดร่างกฎหมายก่อนนำเข้าสู่สภาฯ มองเป็นบวก เพราะก่อนหน้าตลาดกังวลว่าขั้นต้อนอาจจะสะดุด เนื่องจากฤษฎีกามีข้อเสนอแนะอย่างน้อย 6 ประเด็นฯก่อนที่จะเสนอ ครม. ในวันนี้ หุ้นที่คาดว่าจะตอบสนองในทางบวกกับข่าวนี้ คือ AOT, BTS,VGI,CPALL,BJC,BA
ส่วนบล.กสิกรไทยระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ว่า นายกเผยที่ประชุมครม. เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ขณะด้านคณะกรรมการกฤษฎีกาที่มีการตั้งข้อสังเกต 6 ประเด็นก่อนหน้านั้นยืนยันว่าเพียงความเห็นไม่ได้ขัดขวาง แต่เสนอให้มีการปรับรายละเอียดโครงการ ซึ่งภายหลังจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการตรวจสอบความถูกต้องแล้ว จะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
โดยมองเป็นบวกกับกลุ่มโรงแรม (ERW, AWC, CENTEL) สายการบิน (BA,AAV, AOT) และกลุ่มที่มีความเชื่อมโยงกับการบริโภคภายในประเทศ (CRC, CPALL) รวมถึงบางกลุ่มที่อาจมีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องหรืออาจสนใจเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร แต่อาจยังไม่มีแผนการทางธุรกิจหรือภาพที่ชัดเจนเช่น BTS, VGI, ROCTEC
อย่างไรก็ดีกลุ่มกลุ่มโรงแรม ท่องเที่ยว สายการบิน ในระยะสั้นอาจยังเผชิญแรงกดดันจากความกังวลเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางท่องเที่ยวมาประเทศไทยภายหลังเหตุการณ์ ซิงซิง ดาราจีนหายตัว และ ลิม กินยา นักการเมืองกัมพูชาที่ถูกยิงเสียชีวิตในประเทศไทย
ทั้งนี้ทางรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมส่งร่างกฎหมาย และข้อคิดเห็น ที่มีการเสนอในที่ประชุม ครม. วันนี้ ให้คณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อปรับปรุงร่างกฎหมายก่อนจะเสนอสภาฯ ภายใน 2-3 เดือน
อนึ่งก่อนหน้านี้นายกรภัทร วรเชษฐ์ หัวหน้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า การเปิดเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทยเพิ่มขึ้นปีละ 20 ล้านคน ซึ่งจะหนุนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวอย่างชัดเจน โดยกลุ่มแรกที่จะได้รับประโยชน์ ได้แก่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT
ตามมาด้วย กลุ่มโรงแรม ได้แก่ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW, บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT กลุ่มสายการบิน อาทิ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA, บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV และกลุ่มบริโภค อย่างเช่น บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL
ทั้งนี้ผลการศึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ สาระสำคัญ ดังนี้
1) พื้นที่เหมาะสมอาจจะเป็นเขต กทม. หรือ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC รัศมีไม่เกิน 100 กม. จากสนามบินหลัก
2) เป็น Entertainment Complex ขนาดใหญ่ 10-30 ล้านตารางเมตร
3) ลงทุน 8.0 พันล้านเหรียญฯ (2.8 แสนล้านบาท)
4) ก่อสร้าง 5-10 ปี 5) ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ 20 ล้านคนต่อปี และ
6) เก็บภาษีปีละ 1.7-2.4 พันล้านเหรียญ (5.95 -8.4 หมื่นล้านบาท)