“ทักษิณ” มั่นใจ GDP ไทยปีนี้โต 4% แนะ 3 หน่วยงานรัฐหารือ หนุน SET ปีนี้ทดสอบ 1,800 จุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 ม.ค. 68) หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจ จัดงานสัมมนาเชิงกลยุทธ์ภายใต้หัวข้อ “Dinner Talk Chat with Tony : Bull Rally of Thai Capital Market” มาร่วมกันเปลี่ยนตลาดหมีเป็นกระทิง โดยดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ระบุว่า การพัฒนาประเทศจะเป็นคุณต่อตลาดทุนเพราะระบบเศรษฐกิจและตลาดทุนเดินไปด้วยกัน ดังนั้นจะต้องพัฒนาระบบเศรษฐกิจให้เข็งแรงให้ได้

โดยปัญหาที่น่าเป็นห่วงคือการเข้ามาของยานยนต์ไฟฟ้า (EV) จากประเทศจีนที่ทำตลาดในไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจกระทบต่อระบบนิเวศอุตสาหกรรมยานยนต์สันดาปของไทย จำเป็นต้องสร้างสมดุลในเรื่องนี้

ส่วนประเด็นภูมิรัฐศาสตร์และสงครามการค้าก็มีผลกระทบต่อประเทศ โดยเฉพาะภาคการส่งออก จึงจำเป็นต้องหาตลาดใหม่และปรับคุณภาพสินค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงการเกษตร

ขณะเดียวกันภาคการนำเข้าต้องตรวจสอบสินค้าจีนที่ไร้คุณภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยที่กดดัน SMEs ในประเทศ ดังนั้นต้องมีการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่เพื่อทดแทนการนำเข้า เช่น เซมิคอนดักเตอร์ เวชภัณฑ์ และยา

อย่างไรก็ตาม ข้อดีของสงครามการค้าคือ สินค้าจากจีนมีแนวโน้มที่จะใช้ไทยเป็นฐานลงทุนเพื่อขายในตลาดอื่นๆ เช่นเดียวกับสินค้าจากสหรัฐฯ การเปิดรับการลงทุนจึงควรกำหนดให้ผู้ลงทุนใช้วัตถุดิบในประเทศ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจและช่วยฟื้นฟู SMEs

อย่างไรก็ตามหากดำเนินการเชิญชวนนักลงทุนต่างชาติเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จะสามารถสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยกลับมาเติบโตได้ซึ่งปี 68 นี้คาดหวังให้ GDP เติบโต 4% ส่วนปี 69 คาดการณ์ว่าจะสามารถเติบโต 5%

นายทักษิณ กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากเห็นความสามัคคีในด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในสามเสาหลักเศรษฐกิจ ได้แก่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.), สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์), และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งควรประสานงานกันอย่างใกล้ชิด

ขณะนี้ ธปท.ไม่ยอมพูดคุยกับใคร ทำให้เหมือนอยู่คนละประเทศ การประสานงานร่วมกันจะช่วยผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโต และทำให้ตลาดหลักทรัพย์เติบโตตามไปด้วยโดยคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะสามารถแตะ 1,800 จุดได้ ถ้าหุ้นไม่ขึ้นในวันพรุ่งนี้ก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน