TISCO ตั้งสำรองเพิ่ม กดกำไรปี 67 ลดลง 5% เหลือ 6.9 พันล้าน

TISCO รายงานกำไรปี 67 ลดลง 5% แตะ 6.9 พันล้านบาท จากปีก่อนมีกำไร 7.3 พันล้านบาท หลังตั้งสำรองเพิ่มขึ้นรองรับความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจ


บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO รายงานผลการดำเนินงานงวดปี 67 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค.67 มีกำไรสุทธิ ดังนี้

โดยกำไรสุทธิสำหรับผลประกอบการงวดปี 67 ของบริษัทมีจำนวน 6,901.28 ล้านบาท ลดลงจำนวน 399.84 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.5 เมื่อเทียบกับปี 66 สาเหตุหลักมาจากการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 0.6 ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย ซึ่งเป็นไปตามแผนการเพิ่มสำรองเพื่อกลับสู่ระดับปกติ พร้อมทั้งเพื่อรองรับความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง

สำหรับรายได้รวมจากการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นร้อยละ 2.3 โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิทรงตัวจากปีก่อนหน้าจากการบริหารผลตอบแทนของเงินให้สินเชื่อที่มีประสิทธิภาพชดเชยต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 29.4 ตามการปรับเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยเงินฝาก

ด้านรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยขยายตัวร้อยละ 8.4 ส่วนใหญ่มาจากผลกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (FVTPL) ด้านธุรกิจหลักค่าธรรมเนียมรวมของธุรกิจจัดการกองทุน เติบโตร้อยละ 5.5 จากการขยายตัวของธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ รวมถึงการรับรู้ค่าธรรมเนียมตามผลประกอบการ (Performance Fee) ในช่วงสิ้นปี

นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจวาณิชธนกิจเพิ่มขึ้นจากการเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ครั้งแรก (IPO) อย่างไรก็ตาม ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ได้รับผลกระทบจากยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ลดลงอย่างมาก ส่งผลให้พอร์ตสินเชื่อปรับลดลงพร้อมกับรายได้ค่าธรรมเนียมนายหน้าประกันภัยอ่อนตัวลง

ส่วนค่าธรรมเนียมธุรกิจ หลักทรัพย์ชะลอตัว เป็นไปตามภาวะตลาดทุนที่ผันผวนและปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ซบเซากำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน (Basic earnings per share) สำหรับงวดปี 67 เท่ากับ 8.62 บาทต่อหุ้น ลดลงจาก 9.12 บาท ต่อหุ้นในงวดปี 66 และบริษัทมีอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROAE) ของปี 67 อยู่ที่ร้อยละ 16.1

Back to top button