เกือบไปแล้ว! นายกฯ เตือนภัย “แก๊งคอลเซนเตอร์” เจอด้วยตัวเอง อ้างเป็นผู้นำประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 ม.ค.68) นางสาวแพทองธาร ชิน​วัตร​ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมสัมมนาและมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569

โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวตอนหนึ่งถึงนโยบายด้านสังคมและคุณภาพชีวิต เป็นเรื่องของการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาชญากรรมออนไลน์ ด้วยวิธีการที่เด็ดขาด รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่มีแก๊งคอลเซนเตอร์โทรเข้ามาถึงตนเอง

“ขอแชร์ที่นี่เป็นที่แรกว่าถ้าประชาชนดูอยู่ อย่างตัวดิฉันเองซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี ก็โดนคอลเซนเตอร์เช่นกัน ไม่ใช่ไม่โดนโดนเช่นกัน คอนเซนเตอร์ที่มาถึงดิฉันแอดวานซ์มากนะคะ เพราะว่าเป็นคอลเซนเตอร์ที่หลอกว่าเป็นผู้นำบางประเทศมาแล้วก็บอกว่าดิฉันยังไม่บริจาคบางอย่าง ก็ขออันนี้ไม่เอ่ยชื่อเดี๋ยวจะเป็นเรื่องไม่ดี เป็นผู้นำหนึ่งประเทศ ประเด็นใดประเด็นหนึ่ง แล้วก็ส่งเสียงมาให้ดิฉันแล้วเสียงนั้นก็คือเสียงของผู้นำประเทศนั้นเลย อันนี้ขอเตือนภัยพี่น้องประชาชนว่าดิฉันเองก็เกือบเชื่อว่าเป็นเสียงของผู้นำจริง ๆ ซึ่งเราก็ได้ยินอยู่แล้ว”

“กดเพลย์เป็นคลิปส่งมา เสียงแบบ Good morning Prime Minister of Thailand แล้วก็ชวนคุย พอคุยสักพักก็พูดต่อว่า You ยังไม่ได้ donate ให้เลยนะ อันนี้ประเทศหนึ่ง แต่ลิงก์ที่ส่งมาให้ donate เป็นอีกประเทศหนึ่ง…เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ก็รับอยู่ อันนี้มาจากต่างประเทศเลย ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนเจอจริง ๆ แล้วก็การหลอกเริ่มแอดวานซ์ขึ้นเรื่อย ๆ เนียนขึ้นเรื่อย ๆ แยบยลมากดิฉันเกือบเชื่อไปแล้ว” นางสาวแพทองธาร กล่าว

ทั้งนี้ นางสาวแพทองธาร ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า รู้สึกตกใจมาก​ เพราะปกติแล้วที่เจอจะเป็นลักษณะของการโทรมาเป็นเบอร์บ้าน หรือเบอร์มือถือแปลก ๆ ซึ่งเราก็ทราบว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชัดเจน แต่ครั้งนี้น่าจะเป็นการใช้ AI เป็นเสียงผู้นำต่างประเทศที่เคยได้ยินอยู่แล้ว

นายกรัฐมนตรี เล่าโดยสรุปอีกครั้งว่า ตอนแรกส่งคลิปเสียงมาก่อน ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง อยากทำงานด้วยกันนะ แป๊บนึงก็หายไปแล้วบอกว่าจะติดต่อมา และก็โทรกลับมาด้วย บังเอิญโทรมาตอน 5 ทุ่ม หลับไปแล้วก็เลยไม่ได้รับ แต่ก็ตกใจมาก เห็นเบอร์ที่โทรมาก็ส่งข้อความไปว่า ขอโทษที่ไม่ได้รับโทรศัพท์แล้วจะให้โทรกี่โมงก็นัดเวลากัน จากนั้นก็ส่งเสียงมาอีกว่าให้บริจาค โดยบอกว่าเป็นประเทศในอาเซียนที่ยังไม่ได้บริจาคเลย ย้ำแบบนี้ เราก็อึ้งไปแป๊บนึง และรู้สึกว่าไม่ใช่แล้ว ก่อนจะส่งมาอีกเป็นข้อความเลขบัญชีที่ให้โอนเงิน แต่เป็นของอีกประเทศหนึ่งก็เลยชัวร์รู้สึกแล้วว่าน่าจะใช่แน่นอน อันนี้ต้องฝากรัฐมนตรีดีอีดูต่อ เพราะที่ส่งมาเป็นแอปพลิเคชันต่างประเทศ ไม่ใช่ LINE แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะสืบดูได้แค่ไหน