เปิดโผ 17 หุ้น “ต่ำบุ๊ก” พ่วงยีลด์สูงเกิน 4%

คัด 17 หุ้นเด่น SET100 ราคา "ต่ำบุ๊ก" พ่วงยีลด์สูงเกิน 4% รับแนวคิด “ทักษิณ ชินวัตร” ในงาน Chat with Ton ชี้ช่องบริษัทจดทะเบียนบริหารสภาพคล่องส่วนเกินด้วยการ “ซื้อหุ้นคืน” หลังพบหลายหุ้นเทรดราคาต่ำบุ๊กแวลู นำโดย TOP, SIRI, AP, QH, SPALI, SCB, BAM, PTT, TCAP, KKP,TTB,RATCH,JMT,EA,BBL,HANA,KBANK   


ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณี ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในงาน Chat with Tony : Bull Rally of Thai Capital Market ที่จัดโดยเครือข่าวหุ้นธุรกิจว่า บริษัทจดทะเบียนหลายแห่งในตลาดทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มีอัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (P/BV) และอัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ P/E ต่ำ โดยมีแนวคิดสนับสนุนโครงการซื้อหุ้นคืน หรือ Treasury Stock ของบริษัทจดทะเบียน และให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดให้บริษัทต่าง ๆ ต้องมีแผนว่าจะทำอย่างไรให้ราคาหุ้นกับมูลค่าทางบัญชีใกล้เคียงกัน เพราะปัจจุบันหุ้นหลายตัวราคาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี (BV)

ทั้งนี้ โครงการซื้อหุ้นคืนหรือการทำ Treasury Stock ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการเงินเพื่อบริหารสภาพคล่อง ในกรณีที่ราคาหุ้นของบริษัทอยู่ในระดับต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น และบริษัทมีกำไรสะสมและสภาพคล่องสูงกว่าความต้องการใช้ดำเนินธุรกิจในช่วงระยะเวลาดำเนินโครงการ โดยจำนวนหุ้นที่ลดลงจะส่งผลให้กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ปรับตัวสูงขึ้น และเมื่อนำไปคำนวณรวมกับอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E Ratio) จะทำให้ราคาหุ้นบนกระดานมีแนวโน้มสูงขึ้นเช่นกัน

โดยปัจจุบันราคาหุ้นของหลายบริษัทที่มีสภาพคล่องทางการเงินสูงปรับตัวลดลงเกินกว่ามูลค่าทางบัญชี หรือเรียกว่า “หุ้นต่ำบุ๊ก” รวมถึงซื้อขายบน P/E Ratio ที่ระดับต่ำมาก เนื่องจากบริษัทนั้น ๆ มีการนำสภาพคล่องส่วนเกินไปขยายการลงทุน แต่ไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้คุ้มค่าเงินลงทุน หรืออีกกรณีคือบริษัทนั้น ๆ กังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงจากหลายปัจจัย จึงมีการชะลอหรือหยุดการลงทุน ส่งผลให้เกิดข้อจำกัดต่ออัตราการเติบโตของผลประกอบการ หรือกระทั่งมีผลประกอบการถดถอย

ดังนั้นการทำ Treasury Stock จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับบริษัทที่มีสภาพคล่องส่วนเกิน แต่ไม่สามารถนำไปสร้างมูลค่าเพิ่มจากการลงทุนได้ โดย EPS ที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้เกิดการประเมินมูลค่ากิจการที่สูงขึ้น หรือหมายถึงราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดอุปสงค์ต่อตัวหุ้นเพื่อสร้างเสถียรภาพและเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาหุ้นได้มากขึ้น

จากประเด็นดังกล่าว “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงทำการสำรวจและรวบรวมกลุ่มหุ้น SET100 ที่มีสภาพคล่องทางการเงินสูงปรับตัวลดลงเกินกว่ามูลค่าทางบัญชี หรือเรียกว่า “หุ้นต่ำบุ๊ก” เพื่อนำมาเสนอนักลงทุนให้สอดรับแนวคิด “ทักษิณ ชินวัตร” ชี้ช่องบริษัทจดทะเบียนบริหารสภาพคล่องส่วนเกิน ด้วยการ “ซื้อหุ้นคืน” หลังพบหลายหุ้นเทรดราคาต่ำบุ๊กแวลู แถมหุ้นส่วนใหญ่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล หรือ Dividend Yield สูงเกิน 4% โดยมีหุ้นที่เข้าเกณฑ์จำนวน 17 ตัว ประกอบด้วยนำโดย TOP, SIRI, AP, QH, SPALI, SCB, BAM, PTT, TCAP, KKP, TTB, RATCH, JMT, EA, BBL, HANA, KBANK ดังตารางประกอบ

ด้านบล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์อีกว่า ภายใต้ตลาดเผชิญแรงกดดันแต่บริษัทหลายบริษัทก็ส่งสัญญาณว่าราคาหุ้นอยู่ในระดับที่น่าสนใจจากการทยอยซื้อหุ้นคืน รวมถึงผู้บริหารซื้อหุ้นเพิ่มด้วย ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นไทยยังมีหุ้นถูกๆ อีกเยอะสะท้อนจากมีหุ้นใน SET100 ถึง 40 บริษัท มี PBV ไม่เกิน 1 เท่า

ทั้งนี้เริ่มเห็นผู้บริหารและบริษัทเรียกความเชื่อมั่นเล็กๆโดยเปิดปี 2568 มาได้ ครึ่งเดือน SET INDEX ลง 48 จุด หรือ -3.4%ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันมาอยู่ที่ 1,352 จุด แรงกดดันหลักๆ มาจากความกังวลและจับตาต่อประเด็นการวางหลักประกันมาร์ จิ้น และการวางนโยบายระยะยาวของทรัมป์ในช่วง 100 วันแรก ของการเข้ารับตำแหน่ง ในวันที่ 20 ม.ค. 67 แม้ภาพรวมจะมีประเด็นให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นอยู่บ้าง แต่ก็เห็นบางบริษัทเริ่มเรียกความเชื่อมั่นกลับมา

โดยเห็นได้จากบริษัททยอยซื้อหุ้นคืน 18 บริษัท มีมูลค่ารวม 987 ล้านบาท ในครึ่งเดือนแรกของปี 2568 ได้แก่ TU ซื้อหุ้นคืน 522 ล้านบาท ทุนเฉลี่ยที่ราคา 12.42 บาท, TOA ซื้อหุ้นคืน 213.40 ล้านบาท ทุนเฉลี่ยที่ราคา 14.08 บาท, SNNP ซื้อหุ้นคืน 71.71 ล้านบาท ทุนเฉลี่ยที่ราคา 11.98 บาท, TKN ซื้อหุ้นคืน 50.54 ล้านบาท ทุนเฉลี่ยที่ราคา 8.36 บาท, MAJOR ซื้อหุ้นคืน 47.65 ล้านบาท ทุนเฉลี่ยที่ราคา 14.30 บาท, BM ซื้อหุ้นคืน 24.83 ล้านบาท ทุนเฉลี่ยที่ราคา 3.06 บาท, DCC ซื้อหุ้นคืน 15.47 ล้านบาท ทุนเฉลี่ยที่ราคา 1.70 บาท, SONIC ซื้อหุ้นคืน 10.49 ล้านบาท ทุนเฉลี่ยที่ราคา 1.65 บาท, RPH ซื้อหุ้นคืน 9.88 ล้านบาท ทุนเฉลี่ยที่ราคา 5.57 บาท,

PJW ซื้อหุ้นคืน 6.01 ล้านบาท ทุนเฉลี่ยที่ราคา 2.29 บาท, SEAFCO ซื้อหุ้นคืน 3.24 ล้านบาท ทุนเฉลี่ยที่ราคา 1.99 บาท, SUSCO ซื้อหุ้นคืน 2.98 ล้านบาท ทุนเฉลี่ยที่ราคา 2.79 บาท, EKH ซื้อหุ้นคืน 2.80 ล้านบาท ทุนเฉลี่ยที่ราคา 6.23 บาท, SMT ซื้อหุ้นคืน 2.35 ล้านบาท ทุนเฉลี่ยที่ราคา 1.48 บาท, SNP ซื้อหุ้นคืน 1.23 ล้านบาท ทุนเฉลี่ยที่ราคา 10.99 บาท, DDD ซื้อหุ้นคืน 1.19 ล้านบาท ทุนเฉลี่ยที่ราคา 8.25 บาท, MOONG ซื้อหุ้นคืน 0.51 ล้านบาท ทุนเฉลี่ยที่ราคา 1.96 บาท, KBS ซื้อหุ้นคืน 0.43 ล้านบาท ทุนเฉลี่ยที่ราคา 5.45 บาท

Back to top button