CGSI มอง SET แกว่งผันผวน แนะเก็งกำไร DELTA-CRC
บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ประเมิน SET Index สัปดาห์นี้จะแกว่งผันผวนบริเวณ 1,325-1,355 จุด นักลงทุนจับตาดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจับตากองทุน LTF แนะเก็งกำไร 2 หุ้นเด่น DELTA-CRC
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 ม.ค. 68) ตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดบวกในวันศุกร์ (17 ม.ค.) ที่ผ่านมา โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ต่างรีบาวด์ปรับตัวเพิ่มขึ้น (Tesla เพิ่มขึ้น 3.1%, Nvidia เพิ่มขึ้น 3.1%, Alphabet เพิ่มขึ้น 1.6%) และในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนี Nasdaq ปรับตัวเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์ดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 67 เช่นเดียวกับดัชนี DJIA และ S&P500 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่มีการเลือกตั้งปธน. สหรัฐในเดือนพ.ย. 67 จากแรงสนับสนุนของรายงานตัวเลข CPI ที่ชะลอตัว และ ดัชนี PPI ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าตลาดคาด สนับสนุนให้ตลาดคลายกังวลต่อแนวโน้มที่ (Fed) จะชะลอการลดอัตราดอกเบี้ยลง และ ส่งผลให้บอนด์ยีลด์สหรัฐร่วงลงมา นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานผลประกอบการไตรมาส 4/67 ของธนาคารขนาดใหญ่ที่ออกมาสดใส
แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการในวันนี้ เนื่องในวันรำลึกมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ผู้นำด้านสิทธิมนุษยชน อย่างไรก็ตาม ตลาดทั่วโลกต่างจับตาการกลับมาเข้ารับตำแหน่งปธน. สหรัฐเป็นสมัยที่ 2 ของนายโดนัล ทรัมป์ ในวันนี้ โดยเฉพาะประเด็นความไม่แน่นอนนโยบายการค้า และ นโยบายเศรษฐกิจแบบ America First ที่ IMF คาดการณ์ว่าจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการขยายตัว 2.7% ในปีนี้ (vs. จากเดิมคาดการณ์ที่ 2.2%) และสนับสนุนให้เพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้เติบโตที่ 3.3% (vs. จากเดิม 3.2%) อย่างไรก็ตาม มาตรการที่มากเกินไปนี้อาจนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ และ ส่งผลให้ Fed ชะลอการลดดอกเบี้ยลงได้
นอกจากนี้ ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญสัปดาห์นี้อย่างดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการ รวมถึงยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค. (24 ม.ค.) รวมถึงจับตาการประชุม BOJ (24 ม.ค.) ที่ตลาดคาดว่าจะมีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 0.50%
ทั้งนี้ คาดว่า SET Index สัปดาห์นี้จะแกว่งผันผวนบริเวณ 1,325-1,355 จุด ที่แนวรับแรก 1,320 จุด โดยมองว่าในวันนี้ ดัชนีจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เพื่อรอความชัดเจนจากมาตรการต่างๆ ของนายโดนัล ทรัมป์ ซึ่งจะส่งผลต่อทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์ ฟันด์โลด์ต่างชาติ โดยจะมีการเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันนี้
ขณะที่ปัจจัยในประเทศ โดยประมาณการว่ามูลค่าคงเหลือของกองทุน LTF น่าจะอยู่ที่ประมาณ 2.2 แสนล้านบาท ในสิ้นปี 67 ดังนั้น หากไม่มีเงินทุนไหลเข้า LTF เพิ่มเติม และคาดว่าจะมีการขายคืน LTF รวม 4.5 หมื่นล้านบาท ในปี 68 และ 4 หมื่นล้านบาท ในปี 69 จึงเชื่อว่าการฟื้นมาตรการ LTF น่าจะช่วยชดเชยเงินทุนที่คาดจะไหลออกจาก SET แต่รัฐบาลจะต้องประเมินรายได้ภาษีที่อาจสูญเสียไปจากการนำมาตรการนี้กลับมาเช่นกัน นอกจากนี้ ติดตามรายงานผลประกอบการไตรมาส 4/67 ของบจ. ไทยที่จะทยอยประกาศออกมา
สำหรับหุ้นแนะนำ ได้แก่ บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ทำกำไรในระยะสั้น ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวน (Take profit ที่ 147.00 บาท ส่วนจุด Stop loss ที่ 137.50 บาท
รวมถึง บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่โดดเด่นที่สุดสำหรับปี 68 เพราะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนอกจากจะทำให้ความต้องการสินค้าฟุ่มเฟือยเพิ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยลดดอกเบี้ยจ่ายของ CRC อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีผลประกอบการแข็งแกร่ง รวมถึงมีปัจจัยบวกจากมาตรการ Easy E-receipt ในช่วง 16 ม.ค.-28 ก.พ. (Take profit ที่ 35.50 บาท ส่วนจุด Stop loss ที่ 33.50 บาท)