จับตา “กลุ่มเทคโนโลยี” ฟื้นตัว หลัง “ทรัมป์” รับตำแหน่งผู้นำสหรัฐ

จับตา กลุ่มเทคโนโลยี” ส่งสัญญาณฟื้นตัว หลัง “ทรัมป์” นั่งเก้าอี้ผู้นำสหรัฐ ประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” ของจีน ส่งตัวแทนเข้าร่วมแสดงความยินดี บ่งชี้ถึงการเจรจาที่จะเกิดขึ้นระหว่างสองประเทศ ในส่วนของการแก้ไขกฎหมาย เช่น กรณี TikTok หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศจะผ่อนผันกฎหมายเหล่านี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการขึ้นสาบานของ “โดนัลด์ ทรัมป์” เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจทั่วโลก หลังจากที่เขาประสบชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา การจับตามองหลัก ๆ หลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งคือแนวโน้มของ “สงครามการค้า” ซึ่งหลายคนคาดหวังว่าจะมีนโยบายที่รุนแรง ทว่าผลจากการที่ประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” ของจีนส่งตัวแทนเข้าร่วมแสดงความยินดี ทำให้ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกที่ดี โดยเฉพาะหุ้นไทยที่มีความเชื่อว่าจะได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของตลาดหุ้น

“ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์” หัวหน้าส่วนงานกลยุทธ์การลงทุนต่างประเทศ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวในการสัมภาษณ์ว่า สิ่งที่หลายคนจับตามองมากที่สุดคือสงครามการค้า แม้จะมีความกังวลว่าจะมีนโยบายที่รุนแรง แต่การที่จีนส่งตัวแทนแสดงความยินดีอาจบ่งชี้ถึงการเจรจาที่จะเกิดขึ้นระหว่างสองประเทศ ในส่วนของการแก้ไขกฎหมาย เช่น กรณี TikTok หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศจะผ่อนผันกฎหมายเหล่านี้ ส่งผลให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นจีนปรับตัวดีขึ้น

สำหรับสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ดร.จิติพลมองว่า ทรัมป์จะต้องเข้ามามีบทบาทในการเจรจากับ “วลาดิเมียร์ ปูติน” แต่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในระยะสั้น นอกจากนี้ ความผันผวนในตลาดหุ้นในตอนนี้ยังถือเป็นภาพบวกมากกว่าลบ โดยเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยีที่เป็นโอกาสในการลงทุน หากราคาหุ้นปรับลดลง

“พิริยพล คงวาณิช” ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์พื้นฐานจาก บล.บัวหลวง ยังกล่าวว่า แม้ว่าภาพรวมของตลาดจะดูดีขึ้นบ้างจากการที่จีนแสดงความยินดีกับทรัมป์ แต่ในระยะสั้นยังคงต้องระมัดระวังกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะในเรื่องของสงครามการค้าที่อาจมีผลกระทบต่อการส่งออกไทย

“ณัฐพล คำถาเครือ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุนจาก บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวเสริมว่า หลังจากที่ทรัมป์รับตำแหน่งประธานาธิบดี คาดว่าเขาจะให้ความสำคัญกับนโยบายการคลังและเศรษฐกิจมากกว่าสงครามการค้า โดยหากไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้มากนัก อาจทำให้ดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ปรับตัวอ่อนลง ซึ่งอาจส่งผลให้ความผันผวนในตลาดหุ้นลดลง

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีรีบาวด์ตามตลาดหุ้นสหรัฐ แม้ไร้ปัจจัยใหม่หนุน แต่บรรยากาศโดยรวมดูผ่อนคลายลงหลังจากในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ยังไม่ได้ประกาศมาตรการตั้งกำแพงภาษี โดยระบุถึงนโยบายเรื่องอื่นๆ ที่เป็นการจัดการปัญหาภายในของสหรัฐ ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบจำกัดกับตลาดหุ้นทั่วโลก ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง เป็นผลดีต่อตลาดหุ้นไทย

ขณะที่ การทยอยรายงานผลประกอบการของกลุ่มธนาคารออกมาผสมผสาน มองเป็นกลางไม่ได้มีผลกับตลาดอย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยอาจอยู่ในภาวะลุ้นการรีบาวด์ทางเทคนิค เพราะมีปริมาณการซื้อขายค่อนข้างน้อย และภาพรวมยังไม่ค่อยดี เนื่องจากคาดว่านักลงทุนยังมีความระมัดระวังนโยบายของ “ทรัมป์” ที่ยังไม่มีรายละเอียดความชัดเจน รวมถึง Sentiment ตลาดยังไม่ได้ดูดีมาก พร้อมทั้งให้กรอบแนวรับ 1,335 และ 1,330 จุด ส่วนแนวต้าน 1,355 จุด

Back to top button