“ฐกฤต” มอง SET ฟื้นตัว เก็งกำไร “กลุ่มโรงไฟฟ้า-การเงิน”

“ฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์” มอง SET ฟื้นตัว ล้อตามตลาดหุ้นเอเชีย พร้อมแนะลงทุนหุ้น "กลุ่มโรงไฟฟ้า-การเงิน" รับปัจจัยเงินบาทแข็งค่าแรง และบอนด์ยีลด์ลง ชู GULF-GPSC-JMT-SAWAD-MTC


นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย และนักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (21 ม.ค.68) ระบุว่า หลังจากที่นายโดนัล ทรัมป์ ได้มีการแถลงในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ ซึ่งตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นไทย ตีความประเด็นนี้เป็นบวก โดยมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อลดลง เนื่องจากทรัมป์เคยประกาศไม่อยากให้เงินเฟ้อสูง โดยคาดว่าอาจไม่เร่งขึ้นภาษีจีน 60% เร็วๆนี้ เนื่องจากทรัมป์มีการศึกษาแผนขึ้นแบบ “ขั้นบันได” เพื่อเลี่ยงเงินเฟ้อ

ประกอบประเด็นเงินเฟ้อ สะท้อนถึงอนาคตของการกำหนดนโยบายทางการเงิน หรือดอกเบี้ยของเฟดด้วยเช่นกัน เนื่องจากทรัมป์ไม่ได้เร่งเก็บภาษีจีน โดยมีการปรับมุมมองว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า โดยจะมีการปรับลดเบี้ยลง 1-2 ครั้ง ภายในปีนี้

รวมถึงประกอบกับนโยบายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะคู่ค้าใหญ่อย่างจีน และเพื่อนบ้านอย่าง เม็กซิโก และแคนาดา จะมีแรงกดดันในแง่ของการเดินทางเข้าประเทศ และการเก็บภาษี โดยจะเก็บภาษี เม็กซิโก และแคนาดา อยู่ที่ 25%

ขณะเดียวกันสินทรัพย์เสี่ยง อาทิ US บอนด์ยีลด์ มีการคลายตัวลง และดัชนีดอลลาร์ อ่อนค่าลงมาบริเวณ 107 จุด จาก 109 จุด สะท้อนภาพรวมค่อนข้างเป็นบวกต่อสินทรัพย์ และหุ้นไทย

อีกทั้งประเด็นคำสั่งของทรัมป์ที่มีการลงนามในการถอนตัวออกจากสนธิสัญญาปารีส เกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อมและ การรักษาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะมีผลทำให้ตลาดมีความสนใจในพลังงานสะอาดลดลง เนื่องจากทรัมป์ เน้นพลังงานฟอสซิล และก๊าซธรรมชาติ โดยมีประกาศก่อนหน้าถึงการควบคุมเงินเฟ้อ โดยการปรับลดราคาน้ำมัน และเพิ่มการขุดเจาะหลุมน้ำมัน โดยมองว่าเม็ดงินจะหมุนกลับมาที่อุตสาหกรรมน้ำมัน

นายฐกฤต กล่าวว่า “อาจจะทำให้ ธุรกิจส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ EV อาจจะได้รับผลกระทบในเชิงจิตวิทยา แต่ทั้งนี้อุตสาหกรรมรถยนต์สันดาปยังเป็นอุตสาหกรรมหลักในบ้านเรา อิงจากนโยบายทรัมป์ คาดว่าจะเป็นบวกต่อรถยนต์สันดาป”

ขณะเดียวกันมองว่า บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU มีฐานธุรกิจในสหรัฐ จะได้รับประโยชน์เชิงบวก เนื่องจากมีรายได้มาจากถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติคาดว่าเป็นบวกในระยะกลางจากภาษีนิติบุคคลสหรัฐ และการส่งเสริมพลังแบบดั้งเดิมตามนโยบายของทรัมป์

ทั้งนี้มองว่า ตลาดหุ้นไทยจะ “ฟื้นตัว” ล้อตามตลาดหุ้นเอเชีย รับปัจจัยบวกไปทางเดียวกัน โดยเห็นจากสัญญาณฟันด์โฟลว์ที่เข้าซื้อแค่ไทย และไต้หวัน อีกทั้งเงินบาทแข็งค่าเป็นอันดับ 2 ในเอเชีย ซึ่งเป็นแรงจูงใจให้ต่างชาติเข้าซื้อ รวมถึงการคาดการณ์ GDP ในปีนี้เป็น 2.9% จาก 2.7%

สำหรับกลยุทธ์ลงทุนแนะนำเก็งกำไรวันนี้ โดยเป็นหุ้นที่ปรับราคาลง รับปัจจัยเงินบาทแข็งค่าแรง และบอนด์ยีลด์ลง ได้แก่ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF, บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC, บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT, บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD และบริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC

Back to top button