ครม.ฉลุย! “ภาษีคาร์บอน” 200 บาท/ตัน หนุนไทยสู่ Net Zero ยันไม่กระทบ “ราคาน้ำมัน”

ครม. ผ่าน “ภาษีคาร์บอน” 200 บาท/ตัน หนุนไทยสู่ Net Zero ขณะ “พีระพันธุ์” จี้ถามวงประชุม “เผ่าภูมิ” ยันไม่กระทบราคาน้ำมัน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (21 ม.ค.68) ได้มีมติอนุมัติหลักการ ร่างกฎกระทรวงการคลังกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่..) พ.ศ. …. โดยกำหนดหลักเกณฑ์สำหรับกลไกราคาคาร์บอนในพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต ที่จัดเก็บจากสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน ซึ่งร่างกฎกระทรวงดังกล่าว เสนอโดยกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง

การกำหนดให้มีกลไกราคาคาร์บอนในโครงสร้างภาษีสรรพสามิตที่จัดเก็บจากสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน เพื่อให้ภาครัฐสามารถใช้มาตรการทางภาษีนี้เป็นเครื่องมือในการสร้างความตระหนักให้แก่ผู้บริโภคและผู้ประกอบการในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคและผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อีกทั้งเป็นเครื่องมือที่สร้างโอกาสให้รัฐบาลสามารถเจรจาการค้าระหว่างประเทศที่ให้ความสำคัญต่อการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยในส่วนของมาตรการนี้จะไม่มีผลกระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันแต่อย่างใด

สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงดังกล่าว

1. สินค้าที่จะมีการกำหนดกลไกราคาคาร์บอนเป็นสินค้าในตอนที่ 1 สินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน ตามพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตในบัญชีพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตเฉพาะประเภท ดังนี้

  1. ประเภทที่ 01.01 น้ำมันเบนซินและน้ำมันที่คล้ายกัน ซึ่งรวมถึงแก๊สโซฮอล์ประเภทต่าง ๆ เช่น น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E10 น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 เป็นต้น
  2. ประเภทที่ 01.03 น้ำมันก๊าดและน้ำมันที่จุดให้แสงสว่างที่คล้ายกัน
  3. ประเภทที่ 01.04 น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่น
  4. ประเภทที่ 01.05 น้ำมันดีเซลและน้ำมันอื่น ๆ ที่คล้ายกัน ซึ่งรวมถึงน้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลผสมอยู่ประเภทต่าง ๆ เช่น น้ำมันดีเซล B5 น้ำมันดีเซล B7 และน้ำมันดีเซล B10 เป็นต้น
  5. ประเภทที่ 01.07 ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอล.พี.จี.) ก๊าซโพรเพรน และก๊าซที่คล้ายกัน
  6. ประเภทที่ 01.12 น้ำมันเตาและน้ำมันที่คล้ายกัน

2. กำหนดราคาคาร์บอนของสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด ซึ่งเบื้องต้นจะมีการกำหนดราคาคาร์บอนที่ 200 บาทต่อตันคาร์บอนเทียบเท่า

3. กำหนดกลไกราคาคาร์บอนในโครงสร้างภาษีสรรพสามิตดังกล่าวจะพิจารณาจากราคาคาร์บอนที่กำหนดคูณกับค่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Emission Factor) ของสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันแต่ละชนิด

ทั้งนี้ ตามแผนและเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ทั้งเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050) หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี พ.ศ. 2608 (ค.ศ.2065) กระทรวงการคลังให้ความสำคัญในประเด็นดังกล่าวตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ทั้งกับอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในภาคขนส่ง และน้ำมันที่เป็นต้นทางของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคพลังงาน ซึ่งทั้ง 2 ภาคส่วนดังกล่าวมีสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงที่สุด หรือประมาณ 70% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ดังนั้นการกำหนดกลไกราคาคาร์บอนภาคบังคับมีขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักให้ประชาชนในสังคมให้ปรับตัวและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อรองรับกับการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

ขณะที่ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเสริมว่า ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวจะมีส่วนช่วยทำให้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเสริมสร้างโอกาสให้รัฐบาลสามารถเจรจาการค้าระหว่างประเทศภายใต้กฎกติกาใหม่ที่ให้ความสำคัญต่อการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสร้างความตระหนักให้แก่ผู้บริโภคและผู้ประกอบการเกี่ยวกับการใช้กลไกคาร์บอนภาคบังคับกับภาษีสรรพสามิตน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันต่อไป

ด้าน นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ยืนยันว่า ร่างกฎกระทรวงการคลังกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่..) พ.ศ. …. นี้ เป็นเพียงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในของพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต ที่มีการคำนวณราคาคาร์บอนไว้เป็นส่วนหนึ่งในอัตราภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน เพื่อสร้างการเปลี่ยนผ่านให้ทั้งประชาชนและผู้ประกอบการให้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือกระบวนการผลิตที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากนี้ยังเป็นการเตรียมความพร้อมและการสร้างมาตรฐานสากลให้กับผู้ประกอบการที่จะส่งสินค้าไปยังประเทศที่มีการบังคับใช้มาตรการการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism: CBAM) ในหลาย ๆ ประเทศ ได้เตรียมตัวและสามารถใช้ราคาคาร์บอนนี้ในกรณีที่จะมีการจัดเก็บมูลค่าส่วนต่างราคาคาร์บอนจากสินค้าที่จะนำเข้าไปในประเทศนั้น ๆ

“การดำเนินมาตรการดังกล่าวจะทำให้ประชาชนและภาคอุตสาหกรรมได้เริ่มตระหนักถึงต้นทุนที่เกิดขึ้นจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผ่านการใช้กลไกราคาคาร์บอนภาคบังคับกับการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน โดยยืนยันว่า การกำหนดราคาคาร์บอนนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนของภาคอุตสาหกรรมและค่าครองชีพของประชาชน” อธิบดีกรมสรรพสามิต ระบุ

  • “พีระพันธุ์” จี้ถาม “ภาษีคาร์บอน” กระทบราคาน้ำมันหรือไม่

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยตอนหนึ่งระหว่างแถลงมติ ครม. ในเรื่องนี้ว่า วันนี้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้สอบถามในที่ประชุมฯ ว่าการที่เรื่องนี้เข้ามาในที่ประชุมครม. ทำให้มีผลต่อราคาน้ำมันหรือไม่ ซึ่งทางนายเผ่าภูมิ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ก็ยืนยันว่าไม่กระทบ แต่มีการรับผิดชอบต่อสังคมในเรื่องคาร์บอนที่จะปล่อยออกไปจากน้ำมัน ทั้งนี้เมื่อราชกิจจานุเบกษา ประกาศร่างกฎกระทรวงก็จะมีผลบังคับใช้

Back to top button