“ชัยยศ” ชี้ SET บวกต่อ! แนะลงทุน 2 หุ้น “Domestic Play”

นายชัยยศ จิวางกูร มอง SET บวกต่อแนะลงทุน CPALL รับมาตรการแจกเงินหมื่น - Easy E-Receipt พร้อมให้ราคาเป้าหมาย 70 บาท พ่วง AAV อานิสงส์ตัวเลขนักลงเที่ยวเพิ่มขึ้น ชูราคาเป้าหมาย 3.90 บาท


นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ได้เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันที่ 22 มกราคม 2568 ว่า ดัชนี SET Index มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ 21 ม.ค. ดัชนีปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ปัจจัยสนับสนุนการปรับตัวขึ้นของดัชนี ยังมาจากการที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยังไม่ได้บังคับใช้มาตรการสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลลง

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นในต่างประเทศ เช่น เอเชียและยุโรป ไม่ได้ปรับตัวขึ้นเหมือนดัชนีภายในประเทศ ซึ่งฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการที่ดัชนีภายในประเทศปรับตัวขึ้นแรงอาจได้รับแรงหนุนจากการ Cover Short ในกลุ่มหุ้น โรงไฟฟ้า และ ไฟแนนซ์ ที่ก่อนหน้านี้ปรับตัวลง โดยในเมื่อวานนี้ 21 ม.ค. มีปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นในกลุ่มดังกล่าว อย่างไรก็ตามฝ่ายนักวิเคราะห์เชื่อว่าแรงซื้อจากการ Cover Short อาจจะเบาบางลงในวันนี้

ส่วนปัจจัยภายในประเทศส่วนใหญ่เป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลดีต่อตลาดหุ้น SET Index เช่น มาตรการ Easy E-Receipt 2.0, การเพิ่มขึ้นของตัวเลขนักท่องเที่ยว, และ โครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาท เฟส 2 ที่จะเริ่มในสัปดาห์หน้า ขณะที่ ปัจจัยกดดันต่อตลาด ได้แก่ การเผชิญกับความเสี่ยงจาก สงครามการค้า (Trade War), อัตราเงินเฟ้อ, และ อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ซึ่งเป็นปัญหาเดิมที่เคยเกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะปัญหาการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ที่ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวลง และกระทบต่อ เงินลงทุนจากต่างชาติ (Fund Flow) โดยตรง ขณะเดียวกันท่าที โดนัลด์ ทรัมป์ ต่อการบังคับใช้มาตรการสงครามการค้ากับจีนยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยง แต่ยังไม่มีการดำเนินการในช่วงนี้

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. เป็นต้นมา ค่าเงินบาทได้แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเกิดจากความผ่อนคลายของปัจจัยเงินเฟ้อ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ออกมาตรการทางพลังงาน โดยการเพิ่มการขุดเจาะแก๊ส ซึ่งส่งผลให้ปริมาณ Supply ของพลังงานเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาพลังงานไม่ปรับตัวสูงมาก และส่งผลให้ตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐฯยังคงอยู่ในระดับที่ไม่สูงเกินไป นอกจากนี้ Bond Yield และค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง ส่งผลให้ Fund Flow ไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ 21 ม.ค.

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนวันนี้ ฝ่ายนักวิเคราะห์แนะนำ “Selective Buy” โดยเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่ม Domestic Play ที่จะได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศจากการแจกเงิน 1 หมื่นบาท เฟส 1-2, โครงการ Easy E-Receipt 2.0 รวมถึงการเพิ่มขึ้นของตัวเลขนักท่องเที่ยว ซึ่งหุ้นที่แนะนำลงทุน ได้แก่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ซึ่งได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 70 บาท รวมถึงหุ้นในกลุ่มสายการบินที่ได้รับผลดีจากตัวเลขนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ซึ่งนักวิเคราะห์มองเป็นหุ้น Top Pick และแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 3.90 บาท อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระมัดระวังการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานต้นน้ำ เช่น น้ำมันและโรงกลั่น เนื่องจากมาตรการทางพลังงานที่เร่งด่วนจากโดนัลด์ ทรัมป์ อาจส่งผลให้ราคาพลังงานอ่อนตัวลงในช่วงนี้

Back to top button