“ทรัมป์” สุนทรพจน์เขย่าโลก! จี้ทั่วโลกลดดอกเบี้ย หั่นราคาน้ำมัน
"โดนัลด์ ทรัมป์" สปีชครั้งแรกหลังรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพียง 4 วัน ผ่านคอนเฟอเรนซ์ เวที WEF 2025 เมืองดาวอส กดดันปรับลด "ราคาน้ำมัน" ยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน จี้ธนาคารกลางทั่วโลก "ลดดอกเบี้ย" ย้ำลงทุนในสหรัฐฯ จะไม่เจออัตราภาษีสูง หนุนใช้ "ถ่านหิน" พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวสุนทรพจน์ ในงาน World Economic Forum ประจำปี 2568 (WEF Annual Meeting 2025: WEF AM25) ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เมื่อวันที่ 23 ม.ค.68 ผ่านมา โดยงานจัดขึ้นที่เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส ถือเป็นสปีชแรกของทรัมป์ หลังจากเข้ารับตำแหน่ง ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.68
โดยไฮไลต์จากสปีชของทรัมป์ครั้งนี้ เขากล่าวถึงความเชื่อมโยงยุติสงครามรัสเซียและยูเครนกับการราคาน้ำมันว่า น้ำมันเป็นที่มาของเงินทุนรัสเซีย หากราคาน้ำมันลดลงสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนจะยุติลงทันที โดยเขาจะขอให้ซาอุดีอาระเบียและประเทศสมาชิกโอเปกลดต้นทุนของน้ำมัน
ผู้นำสหรัฐฯ ยังเรียกร้องเช่นเดียวกับช่วงที่เขาหาเสียงว่า ต้องการให้ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด (Federal Reserve : FED) ลดอัตราดอกเบี้ยทันที และยังได้กล่าวกดดันธนาคารกลางประเทศต่าง ๆ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย
“…ในทำนองเดียวกันอัตราดอกเบี้ยควรลดลงทั่วโลก…”
ทรัมป์ กล่าวถึงการเก็บภาษีนำเข้า แสดงออกถึงการดึงการลงทุนจากต่างประเทศเข้าสู่สหรัฐฯ ย้ำว่าบริษัทที่ผลิตในสหรัฐฯ จะได้รับอัตราภาษีต่ำ แต่บริษัทที่ผลิตจะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราที่สูง
“ถ้าคุณไม่ผลิตผลิตภัณฑ์ของคุณในอเมริกา ซึ่งเป็นสิทธิพิเศษของคุณ ดังนั้นง่าย ๆ เลย คุณจะต้องจ่ายภาษีจำนวนที่แตกต่างกัน แต่เป็นภาษีที่จะควบคุมมูลค่าหลายร้อยพันล้านดอลลาร์ หรือแม้แต่ล้านล้านดอลลาร์ เข้าสู่คลังของเราเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจของเราและชำระหนี้” เขากล่าวตอนหนึ่งต่อหน้าผู้เข้าร่วมงานที่เดินทางจากหลายประเทศ
นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังเสนอแนะเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน สำหรับพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ว่า สามารถใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงสำรองได้
ด้าน ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่า จากการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) วันที่ 28-29 ม.ค.นี้ คาดว่า เฟดจะคงดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% จากความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อเร่งสูงขึ้นและตัวเลขตลาดแรงงานยังสะท้อนภาพแข็งแกร่ง โดยเฟดรอดูแนวโน้มเงินเฟ้อและเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า ท่ามกลางความเสี่ยงจากนโยบายภายใต้การบริหารงานของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่อาจเพิ่มแรงกดดันต่อเงินเฟ้อให้เพิ่มสูงขึ้น
ส่วน บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI วิเคราะห์ว่า บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA จะได้รับประโยชน์จากนโยบายทรัมป์ ที่ส่งเสริมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ส่งผลให้เป็นบริษัทเดียวในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีรายงานกำไรปกติที่เติบโต เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี เมื่อเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรม เพราะการเติบโตตามเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ขณะที่ สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA Consensus) ได้ให้ราคาเป้าหมายครึ่งแรกปี 2568 ราคาสูงสุด 133 ราคาเฉลี่ย 111.56 บาท ราคาต่ำสุด 70.68 บาท