พิรุธ! QLT ปลดฟ้าผ่า “พิทักษ์-วิชัย” เหตุไอโม่งกลัวถูกสาว “เบิกจ่ายเงิน”

พิรุธ! QLT ปลดฟ้าผ่า “พิทักษ์-วิชัย” หลังตรวจพบการเบิกใช้เงิน ทำไอโม่งเบื้องหลังหวั่นถูกสาวความจริง ขอมติที่ประชุมวิสามัญให้ออกจากตำแหน่งก่อนวันที่ 28 ม.ค. 68


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มี “สื่อออนไลน์” บางสำนัก นำเสนอข้อมูลของบริษัท ควอลลีเทค จำกัด (มหาชน) หรือ QLT เกี่ยวกับผลประชุมวิสามัญของผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 68 ที่ผ่านมา โดยการจัดประชุมวิสามัญครั้งนี้เป็นไปตามคำร้องขอของผู้ถือหุ้นบริษัทตามมาตรา 100 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535  โดยกลุ่มผู้ถือหุ้นมีหุ้นทั้งหมดรวมกันแล้วคิดเป็นร้อยละ 11.61 ซึ่งไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมดของบริษัทฯได้ขอให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณาเรียกประชุม เพื่อมีมติอนุมัติหลายวาระสำคัญ และหนึ่งในนั้นคือ มติอนุมัติให้ยกเลิกสัญญาจ้างผู้บริหาร 2 รายก่อนกำหนด ประกอบด้วย 1.นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานกรรมการบริหาร และ 2.นายวิชัย ประภูศักดิ์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินโดยให้มีผลในวันที่ 23 ม.ค.2568

โดยเนื้อหาที่มีการนำเสนอนั้น ระบุว่าการใช้สิทธิขอจัดประชุมวิสามัญ เพื่อมีมตินายพิทักษ์ และนายวิชัย เนื่องจากไม่เชื่อมั่นการบริหาร และผลการดำเนินงานไม่ตามแผน ทำให้งบในไตรมาส 3/67 มีผลประกอบการขาดทุน และยังมีคดี บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เอม โซลูชั่นส์ จำกัด (PAS) ที่ก่อนหน้านี้ ยังไม่มีการแจ้งความคืบหน้าใดๆ กับผู้ถือหุ้นหรือตลาดหลักทรัพย์ฯ จนทำให้ 2 ผู้บริหารดังกล่าวถูกโหวตยกเลิกสัญญาจ้างก่อนกำหนดนั้น

จากการตรวจสอบข้อมูลอ้างอิงแหล่งข่าว “แวดวงตลาดทุน” ได้เปิดเผยกับทีมข่าว “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า ข้อมูลที่มีการนำเสนอนั้น อาจต่างจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เนื่องจากการเข้ามาทำหน้าที่ฝ่ายบริหารของ นายพิทักษ์ และนายวิชัย มาจากการร้องขอของกลุ่มผู้ถือหุ้น QLT ให้เข้ามาช่วยฟื้นฟูธุรกิจของบริษัทที่กำลังประสบปัญหา ตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค. 67

โดยภารกิจสำคัญที่ให้นายพิทักษ์ และทีมบริหาร คือการเข้ามาสางปัญหาการขาดทุนจากการบริหาร และขาดทุนจากดีลเมื่อวันที่ 4 ส.ค. 65 บริษัทได้ลงทุนซื้อกิจการ “เพอร์ตี้ เอม โซลูชั่นส์ หรือ PAS มูลค่า 145 ล้านบาท และต่อมา PAS หยุดประกอบธุรกิจในเดือน พ.ค. 66 ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย และเกิดการด้อยค่าเงินลงทุนทั้งจำนวน และทำให้บริษัทขาดทุนงวด 6 เดือนปี 66 ซึ่งขณะนั้นทาง ก.ล.ต.ก็ได้สอบถามดีลนี้เช่นกันว่าลงทุนกันอย่างไร ซึ่งถือว่ามีความผิดปกติ

อีกทั้ง ตลท.ได้ สั่งให้ QLT ชี้แจงข้อมูลในงบการเงินงวด 6 เดือนปี 2566 ซึ่งผู้สอบบัญชีมีข้อสังเกตเกี่ยวกับการบันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่าของเงินลงทุนใน PAS และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ QLT มีขาดทุนสุทธิ 128 ล้านบาท ภายหลังเข้าลงทุนไม่ถึงปี

โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างดำเนินคดีเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับการขายหุ้นและผู้บริหารของ PAS โดยวันที่ 19 ธ.ค. 67 ทนายความของบริษัทฯได้ยื่นคำแถลงการณ์ปิดคดีต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยศาลได้โปรดนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 5 ก.พ. 68 เวลา 9.00 น.

แหล่งข่าวคนดังกล่าว ยังตั้งข้อสังเกตว่า ตั้งแต่ นายพิทักษ์ และทีมบริหาร เข้ามาทำหน้าที่ตั้งแต่ช่วง มี.ค.67 เกือบทำให้บริษัทจะกลับมา “เทิร์นอะราวด์”  ได้แล้ว แต่เนื่องจากมีดีลลงทุน PAS ในอดีต ทำให้งบไตรมาส 3/67 ของบริษัทต้องมีการตั้งสำรองค่าเผื่อผลขาดทุนจากการด้อยค่าเงินลงทุนดังกล่าว เหตุนี้จึงน่าจะเป็นข้ออ้างที่ทำให้เกิดการใช้สิทธิ์ของผู้ถือหุ้น เพื่อเปิดการประชุมแบบวิสามัญขึ้น

แต่เรื่องอาจมีเหตุผลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายพิพทักษ์ และทีมบริหาร ตรวจพบความไม่ชอบมาพากล 2-3 เรื่อง เกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินของบริษัท จนต้องดำเนินการสอบสวน ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้ทีมผู้บริหารชุดนายพิทักษ์ได้แจ้งให้ ก.ล.ต.เข้าไปตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว และได้ดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายในนามบริษัทด้วย ซึ่งประเด็นดังกล่าวน่าจะทำให้เกิดความไม่พอใจ และมีมติปลดนายพิทักษ์ และทีมบริหาร ตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค. 68 ก่อนครบกำหนดสัญญาจ้างงาน

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงของประเด็นนี้เพิ่มเติม จากผู้ที่เกี่ยวข้อง หากพบข้อมูลเพิ่มเติมหรือมีความคืบหน้าอย่างไร จะรายงานให้ทราบต่อไป

Back to top button