EA รายย่อยจองหุ้นล้น 7.6 พันลบ. จับตาประชุมบอร์ดเพิ่มทุน NEX วันนี้!

นายวสุ กลมเกลี้ยง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า ผลการจองซื้อและชำระเงินค่าหุ้นเพิ่มทุน EA ระหว่างวันที่ 17-23 ม.ค. 2568 มียอดจองเกินกว่าที่บริษัทได้เปิดขายครั้งนี้ 7.6 พันล้านบาท มาจากทั้งนักลงทุนรายย่อยและรายใหญ่

“วันสุดท้ายของการจองซื้อ (23 ม.ค. 2568) มีนักลงทุนรายย่อยแห่เข้ามาซื้อเป็นจำนวนมาก โดยยอดจองเกินตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันนั้น ส่งผลให้ต้องมาเกลี่ยหุ้นให้ผู้ที่จองซื้อเข้ามาเกินทุกคน” นายวสุ กล่าว

โดยการเพิ่มทุนครั้งนี้จำนวน 4,951,121,866 หุ้น แบ่งจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) จำนวน3,713,341,400 หุ้น ในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาจองซื้อหุ้นละ 2 บาท พร้อมรับใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนต์) EA-W1 ฟรี ในอัตราส่วน 3 หุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อ 1 วอร์แรนต์ โดยกำหนดราคาใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญที่ 4 บาทต่อหุ้น ระยะเวลาใช้สิทธิ 3 ปี

ส่วนแผนขายโครงการโรงไฟฟ้าภายใต้ บริษัท อีเอ โซล่า พิษณุโลก (ESP) ซึ่งจะเสนอขออนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 31 ม.ค. 2568 ราคาประมาณ 8,000 ล้านบาทนั้น ขณะนี้มีผู้ให้ความสนใจหลายราย โดยโครงการนี้จะเป็นโครงการสุดท้ายที่บริษัทจะขายออกไป

สำหรับผลตอบแทนโครงการโซล่าร์ฟาร์มที่พิษณุโลก กำลังผลิต 90 เมกะวัตต์ เฉลี่ยที่ 8.5% ต่อปี ตลอดสัญญา 25 ปีที่ทำไว้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. (ADDER เหลือ 1 ปี) ดีกว่าซื้อพันธบัตร ดังนั้นจึงมองว่าราคาขายที่ตั้งไว้ไม่ถือว่าแพง เนื่องจากโครงการมีผลตอบแทนสม่ำเสมอ และไม่มีความเสี่ยงจากการก่อสร้าง เพราะเป็นโครงการที่สร้างเสร็จแล้ว นอกจากนี้ผู้ซื้อยังสามารถนำไปกู้ธนาคารพาณิชย์ในอัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปี ROE อยู่ที่ 20%

นายวสุ กล่าวเสริมว่า บริษัทเตรียมปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ โดยจะเน้นไปที่พลังงานทดแทนมากขึ้น ซึ่งล่าสุดบริษัทชนะประมูลพลังงานทดแทนรอบสองที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาอยู่ในขณะนี้ นอกจากนี้ บริษัทเตรียมจะเข้าไปร่วมลงทุนพลังงานทดแทนในสปป.ลาว ซึ่งถือเป็นแหล่งพลังงานที่ให้ผลตอบแทนดี

“วันนี้ (27 ม.ค. 2568) เราจะมีประชุมบอร์ด EA เพื่อของบในการเพิ่มทุน NEX ตามสัดส่วนการถือหุ้นในปัจจุบัน” นายวสุ กล่าว

ขณะที่ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX  มีมติเสียงข้างมากอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจากทุนจดทะเบียนเดิมหลังจากจดทะเบียนลดทุนหุ้นทุนรับซื้อคืนที่จำหน่ายไม่หมด 1,995,549,699 บาท เป็น 5,986,649,097 บาท โดยการเพิ่มทุนจำนวน 3,991,099,398 บาท และมีมติอนุมัติการออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท จำนวน 3,991,099,398 หุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตาม สัดส่วนการถือหุ้นโดยไม่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ (Preferential Public Offering :PPO) อัตราส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 2 หุ้นใหม่ ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.00 บาท