รัฐบาล ย้ำแจกแน่! เงินหมื่น “เฟส 3” วงเงินไม่ต่ำกว่า 160,000 ล้าน ผ่านวอลเล็ต
นายกฯ “แพทองธาร” กดปุ่มโอนเงินหมื่น เฟส 2 กลุ่มผู้สูงอายุ 60+ กว่า 3 ล้านคนทั่วประเทศ เติมเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจไทยกว่า 3 หมื่นล้านบาท ขณะที่ “จุลพันธ์” ย้ำ “เฟส 3” เดินหน้าช่วง เม.ย.-มิ.ย. วงเงินไม่ต่ำกว่า 160,000 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (27 ม.ค.68) หลังจากที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน หรือ คิกออฟ (Kick Off) โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผู้สูงอายุ ตั้งแต่อายุ 60 ปีขึ้นไป หรือ “เงินหมื่น เฟส 2” ได้ออกมาย้ำว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งรัฐบาลได้เน้นย้ำและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ เพื่อทำให้ประชาชน “มีกิน มีใช้” และถือเป็นการเติมเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจไทยกว่า 3 หมื่นล้านบาท
ด้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความชัดเจนการแจกเงินหมื่นเฟสถัดไปว่า ก็ยังยืนยันตามเดิมว่า จะเดินหน้าในช่วงไตรมาส 2 ไม่มีเปลี่ยนแปลง ส่วนวงเงินเตรียมรอไว้ไม่ต่ำกว่า 160,000 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดพร้อมดำเนินการระบบเดินหน้าได้ตามที่แจ้งไว้ ทุกฝ่ายก็แสดงเจตจำนงพร้อมเข้าร่วมโครงการนี้ เหลือเพียงการทำระบบต่าง ๆ ให้เรียบร้อย และมีกลไกในการตรวจสอบ รวมถึงการทดสอบระบบจ่ายเงินอย่างเข้มข้น โดยทั้งหมดยังอยู่ในกรอบเวลา มั่นใจว่าจะเดินหน้าในช่วงเดือน เม.ย. ถึง มิ.ย.68
นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า ระบบที่ใช้เป็นระบบจ่ายเงินในวอลเล็ตแบบใหม่ มีบล็อกเชนเป็นฐานข้อมูล และยืนยันว่ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับสิทธิ์
ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจส่วนใหญ่อยู่ในครึ่งปีแรก ในส่วนของครึ่งปีหลังนั้นจะมีโครงการในการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการรักษาโมเมนตัมทางเศรษฐกิจเป็นประเด็นที่สำคัญที่สุดเท่าที่เราทำมา เพราะเป็นการทำให้รายได้ของประเทศสูงขึ้น ทั้งในช่วงของโลว์ซีซั่น (Low Season) และไฮซีซั่น (High Season) เป็นสิ่งที่สำคัญ
ในช่วงโลว์ซีซั่นก็จะเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมามากกว่าในช่วงไฮซีซั่นก็จะมีออกมาน้อยลง แต่โจทย์โดยสำคัญของรัฐบาล คือ การรักษาโมเมนตัมเศรษฐกิจ ยังมีอีกโครงการหนึ่งที่สำคัญคือโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” สองขาที่รัฐบาลทำเดินควบคู่กันไป คือการปลดหนี้ให้กับประชาชน กับการเติมเงินด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจ
สำหรับงบกระตุ้นเศรษฐกิจ หากวงเงินไม่พอจะต้องใช้งบปี 2569 หรือไม่ ทางนายจุลพันธ์ กล่าวว่า ต้องพิจารณาแต่เราเตรียมงบประมาณไว้ระดับหนึ่ง ยังมีช่องทางและกลไกอื่น ไม่ได้ต้องใช้งบประมาณรัฐทั้งหมด อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เรามีคือเม็ดเงิน และเตรียมใส่ลงไปให้ภาคธุรกิจสามารถเดินหน้าเพื่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ส่วนกลไกอื่น ๆ ก็ยังใช้ประกอบกัน รวมถึงการเร่งรัดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ เชื่อว่า กลไกเหล่านี้จะส่งโมเมนตัมเข้าไปในระบบเศรษฐกิจให้เดินหน้า ซึ่งไม่ได้มีมิติเดียว