TIPH ผนึก BE8 ขับเคลื่อนธุรกิจผ่าน “AI” เสริมแกร่งขายประกันภัย
TIPH จับมือ BE8 เปิดตัว HoriXon T8 บริษัทร่วมทุนขับเคลื่อนธุรกิจด้วย AI-Powered Digital Transformation เสริมประสิทธิภาพบริการขายประกันภัยตอบโจทย์ลูกค้าตรงกลุ่ม หนุนรับรู้รายได้ปีนี้
ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH บริษัท Insurance and Finance เจ้าแรกของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมมือกับ บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ BE8 Tech company ครบวงจร ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ เปิดตัว บริษัท ฮอไรซอน ที 8 จำกัด “HoriXonT8” หรือ T8 เพื่อยกระดับ Insurance Ecosystem ให้กับอุตสาหกรรมประกันภัย ด้วย AI-Powered Digital Transformation เสริมศักยภาพพันธมิตรด้านนวัตกรรมประกันภัยทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียน ด้วยบริการที่ตอบสนองความต้องการแบบ MORE + Better + Faster ของ HoriXon T8
ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TIPH กล่าวว่า โลกปัจจุบันกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในหลายมิติ ทั้งการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมผู้บริโภค ด้านสภาพแวดล้อมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI ที่เข้ามามีบทบาทในทุกอุตสาหกรรมทั่วโลก เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมประกันภัยต้องเผชิญกับความท้าทายเหล่านี้ โดย Insurance Ecosystem ถือเป็นระบบนิเวศสำคัญทั้งในมิติของบริษัทประกันภัย, ตัวแทน นายหน้า และคู่ค้า ตลอดจนผู้ให้บริการนอกอุตสาหกรรม เช่น สถาบันการเงิน, สถานพยาบาล, E-commerce และ Market Place ต่างๆ
โดยบริษัทจึงเห็นโอกาสเพื่อปลดล็อคข้อจำกัดเดิมๆ เพื่อให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้านประกันภัยในรูปแบบใหม่ที่มีความหลากหลาย รวดเร็ว และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้นแบบไร้รอยต่อ ช่วยให้เราสามารถขยายฐานลูกค้าและเปิดตลาดใหม่ได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ
ขณะที่ ด้วยประสบการณ์กว่า 72 ปี ของทิพยประกันภัยที่มีความเข้าใจในระบบประกันภัยและความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า การร่วมมือกับ BE8 ครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการผสานความแข็งแกร่งและความเชี่ยวชาญของทั้งสองบริษัท โดยนำเอา Artificial Intelligence (AI) มาพัฒนาโซลูชันเพื่อสร้าง The Future of Insurance ให้ตอบโจทย์กับทุกความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง
ด้าน นายอภิเษก เทวินทรภักติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BE8 กล่าวเสริมว่า บริษัทเล็งเห็นศักยภาพของการนำ AI และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย มาร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงและพลิกโฉมวงการประกันภัยไทยให้ก้าวสู่การเป็นผู้นำในระดับภูมิภาค ตอบสนองกับ Global Trends ต่างๆ เช่น Embedded Insurance หรือ ประกันภัยที่ฝังตัวอยู่ในผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องกับ ไลฟ์สไตล์ตั้งแต่เรื่องการเดินทาง การดูแลสุขภาพ และการซื้อสินค้าผ่านช่องทาง E-Commerce และการพัฒนา Digital Platforms ให้ทุกส่วนของ Insurance Ecosystem ได้เข้าถึงเทคโนโลยีและสามารถทำงานด้วยกับแบบไร้รอยต่อยิ่งขึ้น ซึ่งการร่วมมือกันระหว่าง TIPH และ BE8 ในครั้งนี้ เป็นการผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านประกันภัยที่แข็งแกร่งของ TIPH กับความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีของ BE8
อีกทั้ง บริษัทมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อน Insurance Ecosystem ให้เข้าสู่ยุคแห่งเทคโนโลยี (Tech-Driven Industry) ด้วยโซลูชันและบริการใหม่ๆ สร้างศักยภาพใหม่ให้ทั้ง Insurance Ecosystem แบบองค์รวมเพื่อให้ประกันภัยเข้าถึงได้ง่าย สะดวก และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนในยุคดิจิทัล
ขณะที่ T8 เป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ครอบคลุมทั้งอุตสาหกรรมประกันภัยและพันธมิตรทางธุรกิจใน Insurance Ecosystem โดยไม่ได้จำกัดเพียงการพัฒนา Insurtech ระหว่างบริษัทประกันกับผู้ซื้อประกันเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมอย่างเป็นระบบด้วยการใช้ Modernized Application, Cloud Platforms, Open API Architecture และ AI การสร้างโซลูชันใหม่ที่ทันสมัยเพื่อให้พันธมิตรสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี ซึ่งนำไปสู่การก้าวข้าม Digital Disruption สร้างขีดความสามารถใหม่ๆ สร้าง New S-Curve ให้กับอุตสาหกรรมประกันภัย
ทั้งนี้ ด้วยการนำนวัตกรรม AI และเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้ในทุกมิติ ผสานกับแนวคิดแบบ Disruptive Mindset ที่พร้อมจะก้าวออกจากข้อจำกัดและกรอบการทำงานแบบเดิม T8 ตั้งเป้าหมายที่จะปฏิวัติ Insurance Ecosystem เสริมศักยภาพให้กับพันธมิตรในทุกมิติได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเพื่อสร้างประกันภัยแห่งอนาคต เป็นศูนย์กลางการสร้างนวัตกรรมและ Tech Solutions ที่ครบวงจร พร้อมขับเคลื่อนตลาดประกันภัยด้วยพลังของ AI และเทคโนโลยี แบบไม่มีขีดจำกัด ก้าวไปสู่การเป็นผู้นำด้านประกันภัยในระดับภูมิภาค
นอกจากนี้ การร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อเชื่อมต่อระหว่างบริษัทประกันภัย พันธมิตร และลูกค้าให้สามารถสื่อสารและทำธุรกรรมได้อย่างไร้รอยต่อและมีประสิทธิภาพการบริการสูงสุด พร้อมสร้างการเติบโตไปพร้อมๆ กัน อีกทั้ง ใช้เทคโนโลยีที่ช่วยให้การบริหารจัดการธุรกิจประกันภัยมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เช่น การวิเคราะห์ออกแบบผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า รวมถึงการทำการตลาดที่ตรงจุดมากขึ้น อาทิ คอนเทนต์ (Content) ที่เหมาะสมสำหรับกับการสื่อสารและใช้งานในแต่ละช่องทางการขาย
สำหรับตัวแทนขายประกันภัยเทคโนโลยี AI จะเข้ามาเป็นผู้ช่วยในการขาย โดยจะเป็นผู้ช่วยช่วยแนะนำผลิตภัณฑ์ประกันให้กับลูกค้าในช่องทางที่เหมาะสม ตอบสนองความต้องการได้อย่างทันเวลา และครอบคลุม นอกจากนี้ จุดเด่นของการใช้ AI คือ การนำเทคโนโลยีนี้มาผสานกับการให้บริการประกันภัย ซึ่งช่วยในการจัดการบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การประเมินความเสียหายเพียงแต่ลูกค้าถ่ายภาพ AI จะช่วยประเมิณโดยไม่จำเป็นต้องประกันมาทำการตรวจสอบ
รวมไปถึงในอนาคต AI จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยประเมิน คำนวณราคาประกันภัย ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า โดย AI จะสามารถวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เช่น พฤติกรรมการขับขี่ และระยะทางที่ลูกค้าใช้รถยนต์ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้การคำนวณราคาเบี้ยประกันเป็นไปอย่างยุติธรรมและเหมาะสมกับลูกค้าแต่ละรายได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TIPH กล่าวทิ้งท้ายว่า การนำเทคโนโลยี AI มาใช้จะช่วยให้สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการเฉพาะได้อย่างแม่นยำ ตัวอย่างเช่น หากลูกค้าบางท่านให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพและคำนึงถึงแคลอรี่ในการเลือกอาหารรับประทาน ในขณะที่ลูกค้าท่านอื่นอาจไม่มีความใส่ใจในด้านนี้มากนัก การใช้ AI จะช่วยในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้นในอนาคต การออกแบบผลิตภัณฑ์ประกันภัยจะถูกพัฒนาขึ้นตามความเสี่ยงและลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคล นอกจากนี้ตามจากข้อมูลพบว่า ในปัจจุบันธุรกิจประกันภัยยังมีแนวโน้มการเติบโต อาทิ ประกันวินาศภัยที่มีการเติบโตราว 734,000 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 276,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตประมาณ 2.5 เท่า
อย่างไรก็ตาม เป้าหมายหลักของการร่วมมือในครั้งนี้ คือ การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม (Ecosystems) สำหรับอุตสาหกรรมประกันภัยในอนาคต โดยบริษัทคาดการณ์ว่าจะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวเลขรายได้ของการทำประกันภัยหลังจากการนำ AI มาใช้ได้ภายในปีนี้