DSI ส่งฟ้อง “หมอบุญ” ฉ้อโกงประชาชน 605 ราย เสียหาย 1.4 หมื่นล้าน

DSI ส่งสำนวนอัยการ มีความเห็นสั่งฟ้อง “หมอบุญ” พร้อมพวกรวม 13 ราย ฐานฉ้อโกงประชาชน 605 ราย เสียหาย 1.4 หมื่นล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (27 ม.ค.68) ตามที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับโอนสำนวนการสอบสวนคดีอาญาจาก กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณี นายแพทย์บุญ (สงวนนามสกุล) กับพวกถูกกล่าวหาว่าร่วมกันกระทำความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง เป็นคดีพิเศษที่ 136/2567 เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ

โดย กองกิจการอำนวยความยุติธรรม ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมกันทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จากผู้กล่าวหาและผู้เสียหาย จำนวนกว่า 605 ราย ปรากฏมูลค่าความเสียหาย 14,246,048,033 บาท และสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดเข้าสู่สำนวนแล้ว จำนวน 13 ราย

หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ 24 มกราคมที่ผ่านมาคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษในคดีดังกล่าวได้มีการประชุมและมีมติเห็นควรเสนอให้พนักงานอัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหาจำนวน 16 ราย ในความผิดฐาน“ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนตามพระราชกำหนด การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และที่แก้ไขเพิ่มเติมและร่วมกันฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา

ล่าสุดวันนี้ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ/หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน คดีพิเศษ นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ เลขานุการคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 136/2567 นำสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษดังกล่าว จำนวน 342 แฟ้ม รวมเอกสารกว่า 130,000 แผ่น พร้อมความเห็นควรสั่งฟ้อง นายแพทย์บุญ (สงวนนามสกุล) กับพวก รวม 16 ราย ซึ่งถูกจับกุมแล้ว จำนวน 13 ราย (อีก 3 รายหลบหนีอยู่ระหว่างติดตามตัวรวมทั้งนายแพทย์บุญฯ ด้วย) ไปส่งมอบให้แก่พนักงานอัยการคดีพิเศษ สำนักงานคดีพิเศษเพื่อให้พนักงานอัยการมีความเห็นทางคดีต่อไป

ทั้งนี้ การดำเนินการสอบสวนคดีพิเศษให้มีความรวดเร็ว ต่อเนื่อง และเป็นธรรม เป็นนโยบายหลักประการสำคัญของ พันตำรวจตรี ยุทธนา  แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการสอบสวนคดีพิเศษและให้เป็นที่เชื่อถือ ศรัทธา ของสังคมในการป้องกันปราบปรามสืบสวนสอบสวนคดีในความรับผิดชอบ เพื่อให้การบริหารองค์การมีความยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาลต่อไป

Back to top button