ปลัดพลังงาน ชูแผนปี 68 ลด “ค่าไฟ” ต่ำกว่า 4 บาท คาดชัดเจน 2-3 เดือนนี้
ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดแผนลดค่าไฟต่ำกว่า 4 บาท คาดได้ความชัดเจนใน 2-3 เดือนนี้ ยังไม่ฟันธง 3.70 บาทหรือไม่ ชี้ปี 68 เดินหน้าเปิดสัมปทานสำรวจ-ผลิตน้ำมันในประเทศ จ่อชงครม. ลดภาษี ติดตั้ง “โซลาร์รูฟท็อป” ไตรมาส 1
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (27 ม.ค.68) นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูง ร่วมแถลงข่าวเปิดเผยผลงานกระทรวงพลังงานปี 2567 และแผนการดำเนินงานปี 2568 ภายใต้หัวข้อ “New Chapter เปิดศักราชใหม่พลังงานไทย จากภาพฉาย สู่ ภาพชัด”
โดย นายประเสริฐ กล่าวถึงข้อเสนอของมติที่ประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) สำหรับทางเลือกให้ภาคนโยบาย ทบทวนและปรับปรุงเงื่อนไขการสนับสนุน ทั้งในรูปแบบส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) และ Feed in Tariff (FiT) ผ่านการอุดหนุนราคารับซื้อไฟฟ้าในกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) และกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) เพื่อให้การอุดหนุน Adder และ Feed in Tariff (FiT) สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง และจะทำให้ค่าไฟสามารถปรับลดลงได้ทันทีหน่วยละ 17 สตางค์ คงเหลือ 3.98 บาท/หน่วย จาก 4.15 บาท/หน่วย ในปัจจุบันว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างหารือกับอัยการและคณะกรรมการกฤษฎีกาให้รอบคอบ
ส่วนผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่นั้น ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า เคยมีการเสนอหลายทางเลือก ต้องมีการหารือกันอีกครั้ง แต่ยังมีความเป็นไปได้ เช่น การซื้อโรงไฟฟ้า หรืออีกทางเลือกมีการเสนอว่าลดค่าพร้อมจ่าย (Availability Payment หรือ AP) ในการเดินเครื่องเพื่อจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ แต่มีการขอยืดเวลาการจ่ายไฟ อย่างไรก็ตามต้องมาดูอีกครั้ง เพราะการหารือก่อนหน้านี้มองว่า ไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่ที่จะดำเนินการ ซึ่งทางนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูเรื่องค่าไฟ โดยนอกจาก AP แล้ว ก็ยังดูเรื่องราคาแก๊ส, ค่าท่อ รวมถึงสายส่ง เป็นต้น ตนเชื่อว่าภายใน 2-3 เดือนจะมีทางออกที่เป็นแนวทางที่ชัดเจนขึ้น แต่ไม่รับปากว่าจะสามารถปรับลดค่าไฟในงวดใหม่ (พ.ค.-ส.ค.68) หรือไม่
“การที่จะได้ 3.70 บาท ต้องได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นทางกระทรวงมหาดไทย 3 การไฟฟ้า (การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย,การไฟฟ้านครหลวง, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) ทางปตท. และกระทรวงการคลัง ถ้าทุกภาคส่วนช่วยกัน รวมทั้งภาคเอกชนด้วย ก็มีทางเป็นไปได้ ตอนนี้ทางคณะทำงานกำลังมองว่า จะใช้แนวทางไหนบ้าง น่าจะมีหลากหลายแนวทาง พอได้แนวทางคงต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ได้ตัวเลขตามที่มีความเป็นไปได้ ผมไม่อยากบอกว่า 3.70 บาท หรือ 3.50 บาท หรือจะเท่าไหร่ เพราะต้องดูว่าแต่ละภาคส่วนแต่ละหน่วยงานสามารถที่จะมีส่วนช่วยลดค่าไฟได้สักเท่าไหร่” นายประเสริฐ กล่าว
- ปี 68 ลุยเดินหน้าหาแหล่งพลังงานในประเทศ
สำหรับแผนในปี 2568 ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ยังเน้นเรื่องความมั่นคงด้านพลังงาน จะมีการหาแหล่งพลังงานในประเทศให้มากขึ้น ซึ่งตอนนี้มีการประกาศเชิญชวนเปิดสัมปทานรอบใหม่ รอบที่ 25 สิทธิการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม พื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคอีสาน คาดว่าจะมีประมาณทรัพยากรน้ำมันดิบประมาณ 5.76 ล้านบาร์เรล และก๊าซธรรมชาติประมาณ 20.7 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต ทั้งนี้คาดว่าจะมีเงินลงทุนในการสำรวจและพัฒนาปิโตรเลียมในประเทศไม่น้อยกว่า 73.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2,400 ล้านบาท) โดยในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.68 น่าจะได้เห็นการเข้ามาขอยื่นรับสิทธิฯ
สำหรับเปิดสัมปทานรอบที่ 26 กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างเตรียมการเปิดให้สิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ในบริเวณข้างเคียงทะเลอันดามัน คาดภายใน 2-3 เดือนนี้จะมีการประกาศ โดยมีหลายบริษัทเข้ามาติดต่อให้ความสนใจแล้ว
ส่วนเขตพื้นที่ไหล่ทวีปคาบเกี่ยวไทยกับกัมพูชา (OCA) ตอนนี้ทางกระทรวงพลังงาน กำลังรอทิศทางจากรัฐบาลว่าจะเดินต่ออย่างไร จะเดินตาม MOU 44 หรือไม่ จะมีการตั้งคณะทำงานร่วม (joint working group) หรือไม่ ตนก็ยังไม่ทราบ เพราะว่ายังไม่มีทิศทางออกมา แต่ทางกระทรวงพลังงาน โดยกรมเชื้อเพลิงธรรม ก็เตรียมพร้อมที่จะเจรจาพูดคุยกับทางฝั่งกัมพูชาว่าจะร่วมกันดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร ยืนยันว่าตรงนี้มั่นใจว่ามีศักยภาพแหล่งปิโตรเลียมอยู่พอสมควร
ส่วนกรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศออกจากข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จะกระทบกับนโยบายพลังงานสะอาดหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เรายังยึดมั่นในคำประกาศของรัฐบาลที่จะเดินหน้า ประเทศไทยจะเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี ค.ศ.2050 เพราะให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาโลกใบนี้เพื่อให้บรรยากาศกลับคืนสู่สภาพปกติ
หลังจากที่ผ่านมาโลกเผชิญกับปัญหาภัยพิบัติ อากาศหนาวเย็นจัด ความแห้งแล้ง น้ำท่วมในหลายพื้นที่ ฉะนั้นยังเชื่อมั่นว่า แม้สหรัฐฯ จะถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าวแต่หลายประเทศ รวมทั้งธุรกิจยักษ์ใหญ่ ไม่ว่าจะ Google, Microsoft ก็ยังที่จะดำรงในวิสัยทัศน์ในการ “ลดโลกร้อน” ดังนั้นกระทรวงพลังงานยังคงเตรียมพลังงานหมุนเวียน พลังงานสะอาด อยู่ในระบบพลังงานของประเทศ
สำหรับแนวทางการลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนเรื่องโซลาร์รูฟท็อปนั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า จะมีการลดทอนการขออนุมัติ อนุญาตต่าง ๆ เช่น ใบอนุญาตพลังงานควบคุม ขณะนี้อยู่ในกระบวนการที่จะยกเลิกกฎหมาย ซึ่งจะทำให้ขั้นตอนต่าง ๆ สะดวกขึ้น และเตรียมนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้นำค่าใช้จ่ายในการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปมาลดหย่อนภาษีได้ เรื่องนี้กระทรวงพลังงานได้หารือกับกระทรวงคลังแล้ว คาดว่าจะได้เห็นในไตรมาส 1 นี้ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น