“ภูมิธรรม” ทุบโต๊ะตัดไฟแก๊งคอลเซนเตอร์! จับตา ครม. เคาะ รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟส 2

“ภูมิธรรม เวชยชัย” ดุ! ตัดไฟแก๊งคอลเซนเตอร์ อย่าโยนกันไปมา ยันไม่ต้องขอมติครม. ขณะที่วาระวันนี้ เตรียมเคาะ รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟส 2 “นครราชสีมา-หนองคาย”


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 ก.พ.68) ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงอำนาจสั่งตัดไฟฟ้าในชายแดนเมียนมา ภายหลังสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พบความเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่า การขายไฟฟ้าให้เมียนมา เกิดขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2535-2537 ซึ่งเป็นมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ออกมา 2 ครั้ง ครั้งแรก คือ ให้ขายไฟให้เมียนมา ต่อมาให้ขายไฟได้ตามแนวชายแดน โดยไม่จำเป็นต้องเข้า ครม. และให้ดำเนินการได้ตามแนวทางปฏิบัติที่แท้จริง

ดังนั้น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มีอำนาจตามระเบียบของ กฟภ. โดยเฉพาะในข้อ 51.1 และ 51.2 กฟภ. งดจ่ายไฟฟ้าได้หากพิจารณาเห็นว่าการจ่ายไฟฟ้ากระทบความมั่นคงของชาติ

สำหรับผลกระทบที่เกิดต่อความสงบเรียบร้อยภายในประเทศขณะนี้ ตนเห็นว่ามีปัญหา จากข้อมูลจากศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่ได้รายงานมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า เดือน มิ.ย.65 – มิ.ย.67 คนไทยตกเป็นเหยื่อ กว่า 5 แสนคน สร้างความเสียหายกว่า 6 หมื่นล้านบาท และครอบคลุมความมั่นคงในหลายมิติ รวมถึงมิติด้านเศรษฐกิจ ดังนั้นหากมีข้อมูลว่า ผู้ซื้อไฟฟ้าจาก กฟภ. ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือแก๊งอาญชากรรมข้ามชาติ กฟภ.สามารถใช้สิทธิตามสัญญาจ่ายไฟฟ้าให้น้อยลง หรืองดจ่ายไฟฟ้าได้

“วันนี้ผมจะสั่งการไปยัง สมช.ให้แจ้ง กฟภ. เรื่องนี้รุนแรงจะต้องไปดำเนินการให้ตัดไฟทันที ไม่ใช่มารอโยกไปมาเหมือนที่เกิดขึ้นและกำลังเป็นปัญหา ให้แจ้ง กฟภ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้บังคับหน่วยส่วนไหน หรือผู้รับผิดชอบหน่วยไหน หากไม่ปฏิบัติให้เกิดผลโดยทันที ผมจะยืมตัวมาช่วยราชการ ขอให้ปฏิบัติทันทีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป…” นายภูมิธรรม กล่าว

ขณะที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคม จะเสนอครม. ขออนุมัติ โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค กรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 357.12 กิโลเมตร วงเงิน 341,351.42 ล้านบาท หากครม. เห็นชอบ คาดว่า จะเปิดประกวดราคาหาผู้รับจ้าง และเริ่มก่อสร้างได้ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2568 และเปิดให้บริการในปี 2574

ส่วนรูปแบบการเดินรถนั้นมอบให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ศึกษารูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุน (PPP) ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 โดยเป็นการเดินรถตลอดทั้งเส้น ตั้งแต่กรุงเทพฯ-หนองคาย คาดว่าจะใช้เวลาศึกษา 6-8 เดือน แล้วเสร็จภายในปีนี้ ก่อนนำผลการศึกษาความเหมาะสมและรูปแบบ PPP เสนอ ครม. พิจารณาเห็นชอบ เพื่อเปิด PPP จัดหาเอกชนร่วมลงทุนต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า โครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ระยะที่ 2 แบ่งเป็น ทางวิ่งยกระดับ 202.48 กิโลเมตร และทางวิ่งระดับดิน 154.64 กิโลเมตร มี 5 สถานี ได้แก่ บัวใหญ่, บ้านไผ่, ขอนแก่น, อุดรธานี และหนองคาย ขนาดราง 1.435 เมตร

โดยรถไฟใช้ความเร็วได้สูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วเฉลี่ยในการให้บริการ 192 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปนครราชสีมา 1 ชั่วโมง 26 นาที จากนครราชสีมา-หนองคาย 1 ชั่วโมง 45 นาที และจากกรุงเทพฯ-นครราชสีมา-หนองคาย ประมาณ 3 ชั่วโมง 28 นาที

ส่วนการเตรียมของบกลางจ่ายชดเชย มาตรการรถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรี ช่วงวิกฤติฝุ่น PM 2.5 นั้น นายสุริยะ ยืนยันตัวเลขงบที่จะขอจากครม. คือวงเงิน 190.41 ล้านบาท โดยคาดจะเสนอ ครม. วันที่ 11 ก.พ.68

Back to top button