CGSI มอง SET เดือนนี้อึมครึม แนะลงทุน 8 หุ้นหลบภัย

CGSI มองตลาดหุ้นไทยเดือนก.พ.อึมครึม กังวลไทยอาจถูกเก็บภาษีสินค้าส่งออกไปสหรัฐฯ สูงขึ้น แนะเลือกลงทุนหุ้นกลุ่มปลอดภัยที่เน้นธุรกิจในประเทศ


บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เซ็นคำสั่งฝ่ายบริหาร (executive order) เมื่อวันที่ 1 ก.พ.68 ให้เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% และขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีก 10% ทำให้เกิดความกังวลว่าไทยอาจถูกเก็บภาษีสูงขึ้นจากสินค้าที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯเช่นกัน เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ อยู่ในอันดับที่ 10 ในช่วง 11 เดือนของปี 67 ตามข้อมูลของ United States Census Bureau

โดยในปี 67 การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้ามีสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของมูลค่าการส่งออกของไทยไปสหรัฐฯ จึงเชื่อว่าตลาดอาจกังวลกับการปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าของสินค้ากลุ่มนี้มากกว่ากลุ่มอื่น

ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ระบุว่า แต่เล็งเห็นปัจจัยบวกจากการที่ Bloomberg consensus คาดการณ์ว่าในไตรมาส 4/67 บริษัทจดทะเบียนของไทยจะมีกำไรสุทธิเติบโตสูงถึง 33% จากปีก่อน และ 24% จากไตรมาสก่อน ซึ่งน่าจะช่วยลดผลกระทบในตลาด ขณะเดียวกันกลุ่มที่ Bloomberg consensus มองว่าจะมีกำไรสุทธิเติบโตสูงสุดจากปีก่อน คือ กลุ่มไอซีที, กลุ่มก่อสร้างและกลุ่มเกษตร ส่วนกลุ่มที่น่าจะมีกำไรสุทธิเติบโตสูงสุดจากไตรมาสก่อนคือ กลุ่มท่องเที่ยว, กลุ่มพลังงานและกลุ่มสื่อ ขณะที่คาดการณ์ว่า กลุ่มปิโตรเคมีจะมีกำไรสุทธิเติบโตต่ำสุดจากปีก่อน และกลุ่มบรรจุภัณฑ์จะมีกำไรสุทธิเติบโตต่ำสุดจากไตรมาสก่อน

ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ระบุว่า เนื่องจากปัจจัยลบรุนแรงจากเศรษฐกิจโลก จึงแนะนำให้เลือกลงทุนในหุ้น domestic play โดยเฉพาะกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น กลุ่มค้าปลีก, กลุ่มสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคและกลุ่มธนาคาร ซึ่งหุ้น Top pick ประกอบด้วย AMATA, BCH, BH, CBG, CPN, CRC, MTC และ SCB

ขณะที่ยังคงเป้าดัชนี SET สิ้นปี 68 ที่ 1,530 จุด เท่ากับ P/E 15 เท่าในปี 69 หรือ -1.25SD ของค่าเฉลี่ย 10 ปี อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่แนะนำอาจมี downside risk หากรัฐบาลทรัมป์ปรับขึ้นอัตราภาษีสูงกว่าคาด, รัฐบาลไทยยังต้องให้ภาคเอกชนช่วยสนับสนุนมาตรการลดค่าไฟฟ้าและบริษัทจดทะเบียนมีผลประกอบการอ่อนตัวในไตรมาส 4/67 แต่คำแนะนำจะมี upside risk หากมีเงินลงทุนไหลเข้ามาจากต่างประเทศและรัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่

Back to top button