ตลาดหุ้น “ยุโรป” ปิดบวก นักลงทุนคลายกังวลนโยบายภาษีการค้าของสหรัฐฯ
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก ท่ามกลางความกังวลของนักลงทุน ที่ต้องประเมินผลกระทบเกี่ยวกับภาษีการค้าสหรัฐฯ แต่ยังเห็นสัญญาณที่ดีหลัง “ทรัมป์” เลื่อนเก็บภาษี แคนาดา-เม็กซิโก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันอังคาร (4 ก.พ.68) ท่ามกลางความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับนโยบายภาษีการค้าของสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม ตลาดยังสามารถปรับตัวขึ้นได้ หลังจากมีข่าวว่าการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก ถูกเลื่อนออกไปอีก 1 เดือน
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 536.04 จุด เพิ่มขึ้น 1.19 จุด หรือ +0.22% หลังจากเคลื่อนไหวผันผวนตลอดวัน ขณะที่ ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 7,906.40 จุด เพิ่มขึ้น 51.48 จุด หรือ +0.66% ส่วน ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ปิดที่ 21,505.70 จุด เพิ่มขึ้น 77.46 จุด หรือ +0.36% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 8,570.77 จุด ลดลง 12.79 จุด หรือ -0.15%
แม้ความตึงเครียดด้านการค้าจะยังเป็นปัจจัยกดดันตลาด แต่ได้รับการชดเชยบางส่วนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทในยุโรป โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนำการปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะ Infineon Technologies AG ซึ่งพุ่งสูงขึ้น หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้เกินกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารได้รับแรงหนุนจาก BNP Paribas SA และ UBS Group AG ซึ่งปรับตัวขึ้นหลังจากประกาศแผนซื้อหุ้นคืนและรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
สหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรา 10% ส่งผลให้ปักกิ่งตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ในอัตรา 15% โดยกระทบต่ออุตสาหกรรมน้ำมันและอุปกรณ์การเกษตร ขณะที่ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศผ่อนผันการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นครั้งสุดท้าย อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ได้เปิดเผยอัตราภาษีนำเข้าที่จะใช้กับสินค้าจากสหภาพยุโรป หรือ อียู (EU)