PTTGC จับมือ UCHA รุกตลาด Polyamide ขยายธุรกิจ ตอบโจทย์เมกะเทรนด์
PTTGC จับมือ UCHA ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการขยายตลาด Polyamide ในกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากอุตสาหกรรมยานยนต์ อาทิ อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อ่อนตัว (Flexible Packaging) และเส้นใยยาว (Filament) เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และบริการคุณภาพสูง ตอบโจทย์ตลาดและผู้บริโภคในการขยายธุรกิจ
นายสาโรจน์ พุทธธรรมวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีมูลค่าเพิ่ม บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC กล่าวว่า “ปัจจุบัน PTTGC และ UCHA เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญต่อเนื่องมายาวนาน โดย PTTGC เป็นผู้ดำเนินการจัดหา CX (Cyclohexane) ให้กับ UCHA เพื่อนำไปผลิตเป็น Caprolactam ที่เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิต Polyamide (Nylon) ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยนำไปผลิตและขึ้นรูปชิ้นส่วนยานยนต์หลากหลายรูปแบบ PTTGC เล็งเห็นศักยภาพในการขยายโอกาสทางธุรกิจร่วมกับ UCHA ไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ผลิตภัณฑ์กลุ่มบรรจุภัณฑ์อ่อนตัว (Flexible Packaging) อาทิ ถุงใส่อาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง และ เส้นใยยาว (Filament) ความร่วมมือในครั้งนี้จึงเกิดขึ้น โดยจะช่วยขยายช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่ม Nylon ไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมอื่น ๆ รวมถึงเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทั้งด้านผลิตภัณฑ์และธุรกิจ ระหว่าง GC และ UCHA”
นายวัชระ พัฒนานิจนิรันดร กรรมการผู้อำนวยการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อูเบะ เคมิคอลส์ (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ UCHA กล่าวว่า “การจับมือเป็นพันธมิตรร่วมกันระหว่าง PTTGC และ UCHA ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของทั้งสองบริษัท ในการพัฒนาและขยายตลาด Polyamide ให้เติบโตอย่างยั่งยืนโดย UCHA ซึ่งมี Knowhow ทั้งในเรื่องเทคโนโลยีการผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์ Polyamide และเป็นผู้นำในตลาด Specialty ได้เล็งเห็นความสำคัญของตลาด Flexible Packaging ที่เติบโตสูงในอาเซียน ขณะที่ PTTGC มีความเชี่ยวชาญในตลาดที่หลากหลาย การรวมความรู้และเทคโนโลยีของทั้งสองบริษัทจึงถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการผสานศักยภาพของทั้งสองฝ่าย เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และบริการคุณภาพสูง ตอบโจทย์ตลาดและผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด”
โดยความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นการนำจุดแข็งของทั้งสองบริษัทมาต่อยอดโอกาสทางธุรกิจและการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกันได้อย่างสมบูรณ์ เชื่อมั่นได้ว่าจะสามารถสร้างความแตกต่างทำให้ผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่น ตอบโจทย์เมกะเทรนด์ ตลาดที่หลากหลาย และความต้องการของผู้บริโภค พร้อมสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน