SVI รับอานิสงส์ “บาทอ่อน” ดันกำไรปี 67 โต 50% แตะ 1.38 พันล. แจกปันผล 0.24 บาท
SVI รายงานกำไรปี 67 โต 50% แตะ 1.38 พันล้านบาท รับอานิสงส์บาทอ่อนค่าหนุนกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน เคาะจ่ายปันผล 0.24 บาท ขึ้น XD 22 เม.ย.68 พร้อมจ่าย 9 พ.ค.68
บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVI รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4 และงวดปี 67 สิ้นสุด 31 ธ.ค.67 มีกำไรสุทธิ ดังนี้
ทั้งนี้ บริษัทมียอดขายจากงบการเงินรวมสำหรับปี 67 จำนวน 21,912 ล้านบาท (624 ล้านเหรียญสหรัฐ) ลดลง 779 ล้าน บาท (31.4 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือร้อยละ 3.4 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน แม้ว่าความต้องการของลูกค้าจะฟื้นตัวกลับมาแต่ยอดขายที่ลดลงนั้นเกิดจากรายได้ที่ถูกเลื่อนออกไปในไตรมาสที่ 1 ของปี 68
ขณะที่บริษัทมียอดขายจากงบการเงินรวมสำหรับไตรมาสที่ 4 จำนวน 5,342 ล้านบาท (157.4 ล้านเหรียญสหรัฐ) ลดลง 225 ล้านบาท (3.8 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือร้อยละ 4 เมื่อเปรียบกับไตรมาสก่อนหน้า
สำหรับการเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า ยอดขายจากงบการเงินรวมเพิ่มขึ้น 56 ล้านบาท (8.4 ล้าน เหรียญสหรัฐ) หรือร้อยละ 1.1 การเพิ่มขึ้นในสกุลเงินเหรียญสหรัฐสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินบาท เกิดจากผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนไตรมาสที่ 4 ของปี 66 บริษัทมีรายได้คิดเป็นสกุลเงินเหรียญสหรัฐจำนวน 149.1 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยมีอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยจากสกุลเงินเหรียญสหรัฐเป็นสกุลเงินบาทอยู่ที่ 35.45 เปรียบเทียบกับรายได้ในไตรมาสที่ 4 ของปี 67 จำนวน 157.4 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งมีอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยจากสกุลเงินเหรียญสหรัฐเป็นสกุลเงินบาทอยู่ที่ 33.89 โดยกลุ่มอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมและระบบเครือข่ายไร้สายสำหรับสื่อสารระบบควบคุมอุตสาหกรรม และอุปกรณ์อุตสาหกรรม ยานยนต์ยังคงเป็นกลุ่มสำคัญในการสร้างยอดขายในไตรมาสนี้
ทั้งนี้ บริษัทมีกำไรขั้นต้นจากงบการเงินรวมของปี 67 จำนวน 2,166 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 322 ล้านบาท หรือร้อยละ 17.5 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน และบริษัทมีกำไรขั้นต้นจากงบการเงินรวมในไตรมาสที่ 4 จำนวน 495 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 72 ล้านบาท หรือร้อยละ 17 เมื่อเปรียบกับไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 62 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.3 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน
ด้านอัตรากำไรขั้นต้นของปี 67 คิดเป็นร้อยละ 9.9 เปรียบเทียบกับปีก่อนที่ร้อยละ 8.1 อัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นในปี 67 จนถึงปัจจุบันนั้นเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีอัตราการทำกำไรที่สูงขึ้น รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่าตลอดปี 67 อัตรากำไรขั้นต้นสำหรับไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ร้อยละ 9.3 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ร้อยละ 7.6
พร้อมกันนี้ บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานของงบการเงินรวมไม่รวมรายได้อื่นสำหรับปี 67 อยู่ที่ 1,293 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 266 ล้านบาท หรือร้อยละ 25.9 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนซึ่งเป็นผลจากที่ได้กล่าวมาข้างต้น และสำหรับกำไรจากการดำเนินงานงบการเงินรวมไม่รวมรายได้อื่น สำหรับไตรมาสที่ 4 นี้ อยู่ที่ 266 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60 ล้านบาท หรือร้อยละ 29.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ 206 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีกำไรสุทธิจากงบการเงินรวมสำหรับปี 67 จำนวน 1,379 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 455 ล้านบาท หรือร้อยละ 49.2 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ซึ่งนอกเหนือจากที่กล่าวข้างต้น ยังเป็นผลจากการรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงในปี 67 ในส่วนของกำไรสุทธิจากงบการเงินรวมสำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 67 มีจำนวน 325 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 160 ล้านบาท หรือร้อยละ 97 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 4 ปีก่อนหน้า กำไรสุทธิในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 105 ล้านบาท หรือร้อยละ 47.7
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค.67 ถึง 31 ธ.ค.67 เป็นเงินสด 0.24 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 22 เม.ย.68 และกำหนดจ่าย 9 พ.ค.68