“บล.กรุงศรี” ชี้หุ้นไทยต่ำบุ๊ก! ลุ้นเม็ดเงินใหม่ไหลเข้า ชู 7 หุ้นพื้นฐานดี

บล.กรุงศรี มองหุ้นไทยต่ำบุ๊ก ลุ้นเม็ดเงินใหม่ไหลเข้า พร้อมมองจังหวะเข้าลงทุนระยะยาว ชู 7 หุ้นเด่นพื้นฐานดี แนะนำ CPALL, BDMS, MINT, BH, GPSC, SCGP และ HMPRO


บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุผ่านบทวิเคราะห์คาดการณ์ SET Index ปรับตัวลงแรง 9.86% นับจากต้นปีมาถึงปัจจุบัน (YTD) และอยู่ใน “Value Zone” หรือมูลค่าต่ำเกินไปดังที่กล่าวในช่วงก่อนหน้าว่า SET Index มี Current Equity Risk Premium อยู่ที่ 4.56% สูงกว่า AVG + 1.5 S.D. (4.53%) ที่เป็นจุดกลับตัวตลาดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา แต่เพื่อความเด่นชัด ในมิติอื่นๆ ทีมกลยุทธ์ KSS จึงตรวจสอบค่าที่สะท้อนภาวะมูลค่าตลาด (Value Market) ในมิติอื่นๆ อีก 4 มิติ พบว่า ตลาดหุ้นไทยควรค่าแก่การลงทุนระยะยาว และเป็น Deep Value Zone หรือการที่บริษัทมีราคาต่ำกว่ามูลค่าความเป็นจริง โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.)  อัตราส่วนราคาต่อกำไร (Trailing PER) หลังปี 2554 ของ SET จะมีจุดกลับตัว Ex Crisis ที่ Z-Score -0.42 vs ปัจจุบัน อยู่ที่ -0.37 สะท้อนว่าค่อนข้าง Value

2.)  อัตราส่วนราคาตลาดต่อมูลค่าตามบัญชี (PBV) หลังปี 2554 ของ SET จะมีจุดกลับตัว Ex Crisis ที่ Z-Score -0.86 vs ปัจจุบัน ลบ 1.97 สะท้อน Deep Value มาก

3.) ย้อนกลับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Invert Dividend Yield) หลังปี 2554 ของ SET จะมีจุดกลับตัว Ex Crisis ที่ Z-Score -1.01 vs ปัจจุบัน ลบ 1.58 สะท้อน Deep Value มาก

4.) ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ที่ตลาดคาดการณ์ ในปีนั้นๆ ณ จุดกลับตัวหลังปี 2554 Ex Crisis เฉลี่ย 2.36% เปรียบเทียบปัจจุบัน 3% สะท้อนภาพตลาดยังมองการเติบโต ขณะที่ Outlook ปัจจุบันไทย ซึ่งฝ่ายนักวิเคราะห์เริ่มเห็นแนวทางการสร้าง S Curve ใหม่ๆ

ทั้งนี้ ฝ่ายนักวิเคราะห์ประเมินผลกระทบรอบนี้ เกิดจากแรงขายหุ้นหรือสินทรัพย์อื่นๆ อย่างเร่งรีบและขาดการคิดวิเคราะห์ (Panic Sell) จากการปรับลดน้ำหนัก บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA และแรงขาย กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ขณะที่ระดับ SET ตั้งแต่ต่ำกว่า 1,300 จุด เริ่มเห็นเม็ดเงินใหม่ที่มีโอกาสเข้ามา ฝ่ายนักวิเคราะห์มองแนวโน้มตลาด : ช่วงสร้างฐาน (Consolidation Phase) : ระดับแนวรับเชิงพื้นฐานที่กรอบ 1,270-1,250 จุด

ขณะที่ แนวรับเชิงโครงสร้างเทคนิคระยะยาวของรายเดือนจากฐานปี 2551 สู่ปัจจุบันอยู่ใกล้เคียงกันที่ 1,225 จุด ซึ่งเป็นโซนเหมาะสมสำหรับการเข้าลงทุนกองทุนระยะยาวในประเทศ (Domestic Long Term Fund) ที่จะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นไทย หรือ นักลงทุนที่ต้องการการออมในระยะยาว

ทั้งนี้ ฝ่ายนักวิเคราะห์ได้คัดเลือกหุ้นพื้นฐานดี ที่มีคุณสมบัติเป็นหุ้น Value ด้วยเงื่อนไขใกล้เคียง SET และธุรกิจมีความสามารถในการแข่งขันสูงทั้งภายในภายนอก และพร้อมเติบโตในอีก 3 ปีข้างหน้า ในกลยุทธ์การลงทุนที่มุ่งเน้นเลือกหุ้นที่มีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริง (Theme 7 Value Stocks) ได้แก่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT,บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH, บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC, บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP และ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO

Back to top button