“เอกภาวิน” เปิด 3 ธีมน่าลงทุน ชู 6 หุ้นเด่นปัจจัยบวกเฉพาะตัว

“เอกภาวิน” แนะลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ที่รองรับความผันผวนของตลาดได้ พร้อมชู 3 ธีมที่น่าลงทุนและ 6 หุ้นเด่น ADVANC, TRUE, PTT, AP,  HMPRO และ CRC ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว


นายเอกภาวิน สุนทราภิชาติ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด หรือ INVX เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (10 ก.พ.68) ว่า จากกรณีที่ในช่วงเดือนม.ค.ที่ผ่านมา AUM ของกองทุน LTF ลดลงประมาณ 31,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากนักลงทุนตัดสินใจขายหน่วยลงทุนหลังจากครบกำหนดไถ่ถอน โดยบางส่วนอาจขายหน่วยลงทุนเพื่อลดการขาดทุนหรือเป็นการขายเพื่อจัดการกับความเสี่ยงในอนาคต ถึงแม้ว่าอาจจะมีการขาดทุนบ้างจากราคาหุ้นที่ต่ำลง แต่ภาพรวมของตลาดยังคงเป็นการขายหน่วยลงทุนเพื่อตอบสนองกำหนดไถ่ถอนตามปกติ

สำหรับสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมา แม้มีปัจจัยลบจากทั้งภายในและภายนอกประเทศ รวมถึงความกังวลจากสงครามการค้าและอัตราดอกเบี้ยของเฟด แต่ตลาดหุ้นไทยยังมีการเคลื่อนไหวในลักษณะของการรีบาวด์หลังจากที่ลดลงอย่างรวดเร็ว โดยหุ้นบางตัวเริ่มน่าสนใจในแง่ของการลงทุนระยะกลางถึงยาว เนื่องจากการประเมินราคา (valuation) ที่เริ่มเข้าสู่จุดที่เหมาะสม

ทั้งนี้ ในแง่ของกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ แนะนำให้เลือกลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ (large cap) ซึ่งสามารถรองรับการผันผวนในตลาดได้ดี และหลีกเลี่ยงหุ้นขนาดกลางและเล็กที่อาจขาดแรงรับเมื่อเกิดการผิดหวังจากผลประกอบการ นอกจากนี้ ยังเน้นหุ้นที่มีพื้นฐานดี โดยเฉพาะหุ้นที่มีโอกาสเติบโตในไตรมาส 4 ของปีที่แล้วและในไตรมาส 1 ของปีนี้

อย่างไรก็ตาม กรณีที่ตลาดมีการปรับตัวลดลงจนถึงจุดที่มีความน่าสนใจ เช่นที่ 1,250 จุด หรือ 1,000 จุด มองว่าเป็นจังหวะในการซื้อสะสมหุ้น เนื่องจากแม้ตลาดจะมีความกังวลในระยะสั้น แต่การซื้อหุ้นในช่วงที่ราคาต่ำจะเป็นโอกาสในการทำกำไรเมื่อดัชนีรีบาวด์กลับขึ้นมา

สำหรับธีมการลงทุนที่แนะนำ ได้แก่ หุ้นที่มีผลประกอบการดี เช่น บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ซึ่งมีความมั่นคงในด้านผลประกอบการและสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว และ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE , หุ้นที่มีมูลค่าต่ำกว่ามาตรฐานและมีโอกาสซื้อหุ้นคืน เช่น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT และ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP ที่มีราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง และมีโอกาสในการซื้อหุ้นคืน ซึ่งอาจเป็นโอกาสในการเพิ่มมูลค่าของหุ้นในอนาคต และหุ้นในกลุ่มบริโภค เช่น บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO และบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เนื่องจากมีฐานลูกค้ากว้างขวางและสามารถรองรับการเติบโตในเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้

Back to top button