GFC ปักธงรายได้ปีนี้โตเกิน 15% รุกบริการผู้มีบุตรยาก 3 สาขา-เปิด “พระราม 9” 21 ก.พ.นี้

GFC ปักธงรายได้ปีนี้โตเกิน 15% รุกบริการผู้มีบุตรยาก 3 สาขา “GFC อุบลฯ-พระราม 9-พระราม 3 เต็มพิกัด ส่วนสาขา “GFC Rama 9 International” เตรียมเปิดให้บริการ 21 ก.พ.นี้ หวังรองรับลูกค้าต่างชาติมากขึ้น พร้อมกางแผนครึ่งหลังปี 2568 ลุยส่งบริษัท “Genosomics” ธุรกิจเกี่ยวเนื่อง IVF เสริมแกร่งธุรกิจโตต่อเนื่อง และจับตาประกาศงบปี 67 ปลายเดือนนี้


นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFC ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ เปิดเผยว่า ปี 2568 บริษัทฯตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้น 20 % จากการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยากครบทั้ง 3 สาขา ได้แก่ GFC Ubon-GFC Rama 9 International และ GFC Rama 3

โดยทั้ง 3 สาขา จะให้บริการผู้เข้ารับการรักษาสำหรับผู้มีบุตรยากได้ครอบครบทุกมิติ ตั้งแต่การตรวจเบื้องต้น, การรักษาด้วยวิธี ICSI, การฝากไข่ และการตรวจพันธุกรรมตัวอ่อน PGT-A รวมถึงชูนวัตกรรมการนำเอาเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ PGT-A Plus มาใช้เป็นเครื่องมือในการตรวจความผิดปกติของพันธุกรรมตัวอ่อนก่อนการฝังตัว เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการคัดกรองหาตัวอ่อนที่มีความสมบูรณ์และเพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ ซึ่งทุกสาขา จะร่วมขับเคลื่อนการสร้างรายได้สู่ New S-Curve ให้เติบโตอย่างยั่งยืนตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป

อีกทั้งควบคู่กับแผนการขยายฐานกลุ่มลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะตลาดกลุ่มลูกค้าจีน รวมถึงยังได้ศึกษาแผนการขยายตลาดเจาะกลุ่มลูกค้า CLMV  ลูกค้าอินเดีย รวมถึงลูกค้าตะวันออกกลาง ด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องจากตลาดลูกค้ากลุ่มนี้นอกจากมีดีมานด์ที่สูงแล้ว ยังมีกำลังทรัพย์ที่สูงในการเข้ามารับการรักษาด้วยเช่นเดียวกัน

สำหรับ GFC Rama 9 International สาขาพระราม 9 เตรียมเปิดให้บริการรักษาผู้มีบุตรยากอย่างเป็นทางการ (Grand Opening) ในวันที่ 21 ก.พ. 2568 โดยสาขานี้เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่สำคัญของกรุงเทพฯ ที่จะยกระดับการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยากอย่างครอบคลุม รวมถึงยังสามารถรองรับลูกค้าต่างประเทศได้เต็มรูปแบบ มีห้องวิจัยและห้องปฏิบัติการสำหรับนักวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยห้องประชุมสัมมนาวิชาการทางการแพทย์ ศูนย์ฝึกอบรมนักเทคนิคการแพทย์ภายในของกลุ่มบริษัท (In-house training) เพื่อเป็นการบริหารทรัพยากรบุคลากรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ส่วน GFC Ubon สาขาอุบลราชธานี ปัจจุบันเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสาขาดังกล่าวสามารถรองรับผู้เข้ารับการรักษาได้ครอบคลุมในพื้นที่อุบลฯ และจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน ภายใต้การดูแลจากทีมแพทย์ผู้ชำนาญการและประสบการณ์ด้านการทำเด็กหลอดแก้ว ICSI การฉีดเชื้อ IUI รวมถึงบริการฝากไข่ บริการตรวจ AMH และบริการตรวจโครโมโซม ดังนั้นด้วยทีมแพทย์ ทีมนักวิทยาศาสตร์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ จะสามารถทำให้มั่นใจว่า GFC Ubon จะสามารถขยายฐานและเพิ่มโอกาสการเติบโตของลูกค้ากลุ่มใหม่ รวมถึงสร้างรายได้ให้กับ GFC ได้

“แนวโน้มผลประกอบการปี 2567 เติบโตตามแผนคาดจะประกาศงบปลายเดือนก.พ.นี้ ส่วนผลการดำเนินงานปีนี้บริษัทวางเป้าเติบโตเกิน 15% โดยมาจากเปิดให้บริการครบทั้ง 3 สาขาอุบลฯ ,พระราม 9 และพระราม 3 แบบเต็มพิกัด นอกจากนี้ในสาขาพระราม 9 มีการเปิดชั้น 3 เพื่อรองรับลูกค้าต่างประเทศมากขึ้นทำให้การรักษามีความต่อเนื่องครบวงจรจากเดิมในสาขาพระราม 3 ที่มีพื้นที่จำกัด” นายกรพัส กล่าวเพิ่มเติม

สำหรับแผนธุรกิจปีนี้บริษัทเตรียมรุกขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อเข้ามาดูแลผู้มีบุตรยากว่าจะทำอย่างไรให้สำเร็จได้ โดยอยู่ภายใต้การให้บริการของบริษัท Genosomics Co.,Ltd (GSM) โดยมีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท โดยคาดว่าธุรกิจจะชัดเจนในช่วงครึ่งหลังปี 2568

ส่วนกรณีสมรสเท่าเทียมกฏหมายผ่านแล้ว และอยู่ระหว่างรอกฎหมายอุ้มบุญประกาศใช้ และขึ้นอยู่กับทางรัฐบาลเป็นหลัก แต่อย่างไรก็ตามตรงนี้บริษัทเตรียมแผนรองรับไว้หมดแล้ว เพราะตลาดกลุ่มนี้ค่อนข้างใหญ่และเป็นโอกาสของบริษัท

ทั้งนี้ภายหลังเปิดสาขาพระราม 9 บริษัทมองว่าสัดส่วนรายได้ลูกค้าในประเทศจะอยู่ที่ราว 90% ส่วนต่างประเทศทยอยเข้ามา 5-10% โดยลูกค้าต่างประเทศจะยังเป็นจีน โดยปัจจุบันบริษัททำการตลาดร่วมกับเอเจนซี่ 3-4 ราย และอยู่ระหว่างเจรจาอินเดียปีนี้ โดยสัดส่วนรายได้ธุรกิจปัจจุบันแบ่งเป็น ICSI หรือ เด็กหลอดแก้วประมาณ 70% และตรวจมีการตรวจโครโมโซมตัวอ่อน 20% และที่เหลือมาจากธุรกิจอื่น

“GFC มุ่งยกระดับมาตรฐานการรักษาลูกค้าผู้มีบุตรยาก ควบคู่กับการยกระดับทีมบุคลากรผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และการนำเอาเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์มาใช้เพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ สู่การสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างมั่นคง โดยแนวโน้มการ “ฝากไข่” ซึ่งถือเป็นเทรนด์ผู้หญิงยุคใหม่ในปัจจุบันว่า การฝากไข่ ถือว่าเป็น Asset หรือเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง เนื่องจากเป็นหลักประกันที่เพิ่มโอกาสในการมีลูกในอนาคต เพราะ Asset ดังกล่าวจะเข้ามาช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับครอบครัว ดังนั้น GFC จึงมุ่งเน้นให้ความสำคัญในธุรกิจนี้มากขึ้น เพราะเชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งในธุรกิจในการให้บริการที่จะสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ในอนาคต” นายกรพัส กล่าวทิ้งท้าย

Back to top button