ITC รายได้อาหารสัตว์เลี้ยงพุ่ง! ดันกำไรปี 67 โต 58% ทะลุ 3.6 พันล้าน-เคาะปันผล 0.75 บ.

ITC รายได้ขายอาหารสัตว์เลี้ยงพุ่ง! ดันกำไรปี 67 โต 58% ทะลุ 3.59 พันล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.28 พันล้านบาท เคาะปันผล 0.75  บาท ขึ้น XD 26 ก.พ.นี้ จ่าย 25 เม.ย.68


บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  หรือ ITC รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 67 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 67 มีกำไรสุทธิดังนี้

โดยกำไรปี 67 เพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทฯมีรายได้จากการขายปี 2567 อยู่ที่ 17,7291 ล้านบาก กลับมาเติบโตที่ 13.8% เมื่อเทียบปีก่อน สาเหตุหลักจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในทุกตลาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปยุโรปและอเมริกา เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานที่ลดลงในปีก่อนหน้า รวมถึงกลยุทธ์การปรับราคาของบริษัทฯ และสัดส่วนการขายสินค้าพรีเมี่ยมที่สูงขึ้น

นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติประกาศปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2567 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2567 เป็นเงินสด 0.75 บาทต่อหน่วย วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 26 ก.พ.2568 วันที่จ่ายปันผล 25 เม.ย.2568

นายพิชิตชัย วงศ์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ITC “ปี 2567 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งสำหรับไอ-เทล ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตของตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในภาพรวมแม้ว่าจะยังคงเผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจ แต่การบริโภคสินค้ากลุ่มพรีเมียมมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามความต้องการของกลุ่ม Pet Parent ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลและมอบโภชนาการที่ดีที่สุดให้กับสัตว์เลี้ยงของตน บริษัทฯ มองเห็นโอกาสของตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เราได้นำนวัตกรรมและความเชี่ยวชาญมาใช้ในการพัฒนาสินค้าให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาดและลูกค้ามากยิ่งขึ้น ทำให้เราสามารถสร้างการเติบโตทางธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่วางไว้”

สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 การดำเนินธุรกิจของไอ-เทลมีรายได้จากยอดขายที่ 4,698 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 790 ล้านบาท นอกจากนี้ ไอ-เทล ยังได้เดินหน้าโครงการทรานส์ฟอร์เมชั่นเพื่อเร่งการเติบโต โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงคุณภาพสูง ด้วยนวัตกรรมและกระบวนการผลิตที่ทันสมัย โดยมีเป้าหมายการเพิ่มรายได้เป็นสามเท่า อยู่ที่ประมาณ  1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2573 ทั้งจากการเติบโตจากการดำเนินงานปกติและการควบรวมกิจการในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงระดับโลก

ในปี 2567 ไอ-เทลมีสัดส่วนของยอดขายในอเมริกาคิดเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมด ขณะที่เอเชียและโอเชียเนียอยู่ที่ 34 เปอร์เซ็นต์ และยุโรปอยู่ที่ 16 เปอร์เซ็นต์ โดยสามารถแบ่งสัดส่วนของยอดขายตามประเภทของสินค้าหลัก 3 ประเภท ได้แก่ อาหารแมว 70 เปอร์เซ็นต์ อาหารสุนัข 18 เปอร์เซ็นต์ ขนมของสัตว์เลี้ยง 12 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีคุณภาพสูงออกสู่ตลาดกว่า 1,300 รายการ สร้างรายได้ 1,395 ล้านบาท คิดเป็น 8 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายในปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังเพิ่มความแข็งแกร่งทางธุรกิจด้วยการเซ็นสัญญาทางธุรกิจกับลูกค้ารายใหม่ทั่วโลกอีก 83 รายอีกด้วย

“ในปี 2568 นี้ ไอ-เทล มีความมุ่งมั่นอย่างมากในการขับเคลื่อนการเติบโตแบบก้าวกระโดด เพื่อการขยายธุรกิจในตลาดโลกและการเติบโตในธุรกิจ private label โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐฯ และยุโรป โดยเรายังคงยึดมั่นการให้ความสำคัญกับลูกค้าและสัตว์เลี้ยงเป็นศูนย์กลาง และเดินหน้าอย่างเต็มที่ในการพัฒนานวัตกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและสัตว์เลี้ยงอย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารเปียก ขนมทานเล่น และอาหารกลุ่ม functional สำหรับสัตว์เลี้ยง รวมถึงการมุ่งสู่เป้าหมายสูงสุดในการเป็นผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่มเสริมอาหารและโภชนบำบัด (nutraceutical) เพื่อการดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของสัตว์เลี้ยงอย่างยั่งยืน ” นายพิชิตชัยกล่าวทิ้งท้าย

Back to top button