พรมเสน่ห์รับวาเลนไทน์ “ตลาดน้ำหอม” ไทยเลิศ จับตา 3 ปี เติบโตเฉลี่ย 5.86%

สนค. กระทรวงพาณิชย์ พบแนวโน้มอุตสาหกรรมน้ำหอมเติบโตต่อเนื่อง แนะผู้ประกอบการใช้ “วัตถุดิบพืชพรรณท้องถิ่น - ยกระดับมาตรฐานการผลิต - ทำตลาดเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย” หนุนส่งออกไปตลาดโลก คาดการณ์ว่าจะเติบโตเฉลี่ย 5.86% ต่อปี


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (14 ก.พ.68) นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (ผอ.สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “น้ำหอม” เป็นศาสตร์และศิลป์ ที่มีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่ออารมณ์ ความทรงจำ และพฤติกรรมของมนุษย์ กลิ่นหอมสามารถกระตุ้นความรู้สึกโรแมนติก สร้างความมั่นใจ หรือแม้แต่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้ โดยน้ำหอมไม่ใช่เพียงเป็นเครื่องประดับบนร่างกาย แต่ยังเป็นภาษาที่ไร้คำพูดที่สามารถถ่ายทอดอารมณ์และบุคลิกภาพของผู้ใช้ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในโอกาสพิเศษ เช่น วันวาเลนไทน์ ที่น้ำหอมมักถูกเลือกเป็นของขวัญแทนความรักและความรู้สึกดี ๆ

โดยปัจจุบันตลาดน้ำหอมทั่วโลกเติบโตอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจาก Euromonitor ระบุว่า ในปี 2567 (ค.ศ.2024) ตลาดน้ำหอมทั่วโลก มีมูลค่า 67,026.30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดการณ์ว่า จะเติบโตเฉลี่ย 4.25% ต่อปี และจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น เป็น 79,157.90 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2571 (ค.ศ. 2028) โดยมีปัจจัยสนับสนุนการเติบโต อาทิ อิทธิพลของกระแสความงาม การบริโภคสินค้าหรูหรา และความต้องการผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะตัว

นายพูนพงษ์ เปิดเผยถึงตลาดน้ำหอมประเทศไทย พบว่า ในปี 2567 มีมูลค่า 391 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดการณ์ว่า จะเติบโตเฉลี่ย 5.86% ต่อปี โดยคาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น เป็น 491 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2571

ทั้งนี้ ประเทศไทยมีแหล่งขุมทรัพย์แห่งกลิ่นหอม อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณนานาชนิดที่มีศักยภาพนำไปใช้เป็นวัตถุดิบผลิตน้ำหอม เช่น ดอกกระดังงา มีกลิ่นหอมหวานและอบอุ่น นิยมนำไปใช้ในน้ำหอมที่ให้ความรู้สึกน่าดึงดูดใจสไตล์เซ็กซี่, ดอกโมก มีกลิ่นหอมบริสุทธิ์ ให้ความรู้สึกสดชื่นและสงบ, ดอกลำเจียก มีกลิ่นหอมเอกลักษณ์เฉพาะตัว ให้ความรู้สึกอ่อนหวานและนุ่มนวล, ดอกจำปีและดอกจำปา มีกลิ่นหอมเข้มข้น ให้ความรู้สึกหรูหรา และกฤษณา (Oud) เป็นวัตถุดิบหายากและมีมูลค่าสูง มีกลิ่นหอมที่ลุ่มลึกและติดทนนาน นิยมใช้ในน้ำหอมระดับไฮเอนด์ (high-end) เป็นต้น ดังนั้นอุตสาหกรรมน้ำหอมไทย สามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรเหล่านี้ ต่อยอดพัฒนาเป็นน้ำหอมไทย ที่มีอัตลักษณ์ โดดเด่นและสามารถสร้างจุดขายในตลาดโลกได้

นายพูนพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การพัฒนาอุตสาหกรรมน้ำหอมไทยควรเริ่มจากการสร้างแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ โดยอาศัยวัตถุดิบจากพืชพรรณท้องถิ่นเป็นจุดขายสำคัญ นอกจากนี้ ควรสนับสนุนให้ปลูกพืชหอมแบบยั่งยืน เพื่อให้ได้วัตถุดิบที่มีคุณภาพและเพียงพอต่อความต้องการของตลาด รวมถึงการพัฒนากระบวนการสกัดน้ำหอมให้ได้มาตรฐานสากล อาทิ ISO 9235 เป็นมาตรฐานรับรองคุณภาพสำหรับวัตถุดิบและสารสกัดจากธรรมชาติที่มีกลิ่นหอม และการรับรองจากสมาคมน้ำหอมนานาชาติ (International Fragrance Association: IFRA) เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของน้ำหอมและส่วนผสมของน้ำหอม ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบไทย สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันและส่งเสริมการส่งออกได้ดีขึ้น

ผอ.สนค. แนะนำผู้ประกอบการไทยควรร่วมมือกับนักปรุงน้ำหอมหรือบริษัทเครื่องหอมระดับโลกที่จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ไทยก้าวเข้าสู่ตลาดสากลได้ง่ายขึ้น พร้อมกับการใช้กลยุทธ์การตลาดที่ทันสมัย เช่น การใช้โซเชียลมีเดีย การขายผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และจัดเวิร์กช็อปน้ำหอมเพื่อดึงดูดลูกค้าจะช่วยสร้างการรับรู้และเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจน้ำหอมไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“อุตสาหกรรมน้ำหอมไทยมีศักยภาพสูงในการเติบโตในตลาดโลก ภาครัฐและภาคเอกชนควรร่วมมือกันในการพัฒนาวัตถุดิบ การยกระดับมาตรฐานการผลิต และการทำการตลาดที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ประกอบการควรเน้นการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ ใช้กลิ่นหอมจากพืชพรรณไทยเป็นจุดขาย และพัฒนากระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรมน้ำหอมไทยสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการ และมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ โดยเฉพาะการสนับสนุนเกษตรกรที่เพาะปลูกพืชพรรณหอมและผู้ผลิตวัตถุดิบที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสในการเผยแพร่วัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล การพัฒนาน้ำหอมไทยให้เป็นที่รู้จักในตลาดโลก จึงไม่เพียงช่วยสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นการเสริมสร้างอัตลักษณ์ไทยให้มีความโดดเด่นและเป็นที่จดจำในอุตสาหกรรมความงามและไลฟ์สไตล์ระดับโลก” นายพูนพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บริษัทในประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับการผลิตน้ำหอมและเข้าจดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์ อาทิ บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF บริษัทนี้ผลิตและจำหน่ายวัตถุที่ใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร เช่น วัตถุแต่งกลิ่นและรส (Flavour) ซึ่งรวมถึงวัตถุแต่งกลิ่นที่นำไปเป็นส่วนผสมในน้ำหอมและเครื่องสำอาง บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY บริษัทนี้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ความงาม ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์น้ำหอมด้วย

Back to top button