รมว.พาณิชย์ ลั่นบนเวที World Bank เศรษฐกิจไทยปี 68 โต 3% ชู 5 นโยบายขยาย SME

“พิชัย นริพทะพันธุ์” ปาฐกถางาน World Bank เชื่อเศรษฐกิจไทย ปี 68 โต 3% เกินคาดการณ์ ชู “5 นโยบายพาณิชย์” ขยายโอกาส SME ไทย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน Thailand Economic Monitor ของธนาคารโลก หรือ เวิลด์แบงก์ (World Bank) ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ วันที่ 14 ก.พ.68 ภายใต้ธีม “Unleashing Sources of Growth: Innovation, SMEs and Startups” โดยมีผู้แทนจากภาครัฐ เอกชน นักวิชาการ หอการค้าต่างประเทศ และสถานเอกอัครราชทูตต่าง ๆ เข้าร่วม

นายพิชัย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยคาดว่า จีดีพี (GDP) ปีนี้จะขยายตัว 3% สูงกว่าที่ธนาคารโลกคาดการณ์ไว้ที่ 2.9%

เขาให้เหตุผลที่มั่นใจว่า เป็นผลจากการส่งออก ในปี 2567 ที่ทำสถิติสูงสุดถึง 10 ล้านล้านบาท หรือ เติบโต 5.4% ขณะที่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ทะลุ 1.1 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะอุตสาหกรรมใหม่ อย่าง PCB (Printed Circuit Board) ที่กำลังทำให้ไทยกลายเป็น “ศูนย์กลางการผลิตของโลก”

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวต่อว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้กระทรวงพาณิชย์ เร่งรัดเดินหน้าเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) หลายฉบับ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้สินค้าไทย โดยเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ไทยได้ลงนาม FTA กับ สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป หรือ เอฟตา(EFTA) ซึ่งประกอบด้วย สวิตเซอร์แลนด์, นอร์เวย์, ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ ขณะเดียวกันการเจรจา FTA ไทย-ภูฏาน กำลังใกล้บรรลุผลในเร็ว ๆ นี้ และไทยยังอยู่ระหว่างเจรจา FTA กับ ยูเออี (UAE), สหราชอาณาจักร, เกาหลีใต้ และสหภาพยุโรป หรือ อียู (EU) โดยมุ่งมั่นที่จะบรรลุข้อตกลง FTA ไทย-อียู ภายในสิ้นปีนี้

นายพิชัย กล่าวเน้นย้ำว่า การพัฒนา SMEs และ Startups เป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจ กระทรวงพาณิชย์ ได้ขับเคลื่อนนโยบาย 5 เรื่องในการสนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย

  1. ทลายทุนผูกขาด ปลดล็อกให้คนตัวเล็กส่งออกข้าวได้ มีการปรับลดข้อจำกัดด้านสต๊อกและค่าธรรมเนียม เพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยแข่งขันได้มากขึ้น
  2. ใช้ FTA เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพิ่มแต้มต่อในการค้าและการลงทุน
  3. จัดระเบียบสินค้านำเข้าและธุรกิจนอมินี เข้มการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายกับสินค้าต่างประเทศที่ไม่ได้มาตรฐาน และป้องกันธุรกิจแอบแฝงของคนต่างด้าว
  4. เสริมศักยภาพ SMEs ด้วยเงินทุนและนวัตกรรม ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการที่มีศักยภาพขยายตลาดและยกระดับคุณภาพสินค้า มีแนวทางที่จะร่วมมือกับกระทรวง อว. เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ
  5. สร้าง Thailand Brand สร้างแบรนด์ “Thailand Brand by…” การันตีสินค้าของ SMEs ที่ยังไม่มีแบรนด์ของตัวเองให้สามารถส่งออกได้ พร้อมรับรองคุณภาพสินค้าไทยในตลาดโลก

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะยึดหลัก 80:20 ในการดำเนินงาน โดย 80% เป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการ สนับสนุนธุรกิจให้เติบโตและแข่งขันได้ในตลาดโลก ขณะที่ 20% เป็นผู้กำกับดูแล เพื่อรักษาความเป็นธรรมและปกป้องสิทธิของผู้บริโภค

“ขอให้มั่นใจว่า ด้วยแนวทางนี้ SMEs และ Startups ไทยจะเติบโตและแข่งขันได้ในเวทีโลก และภายใต้การนำของนายกฯ แพทองธาร เศรษฐกิจไทยจะเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง คนไทยจะได้รับโอกาสด้านการค้าใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง” นายพิชัย กล่าวทิ้งท้าย

Back to top button