
CGSI มอง SET วันนี้เสี่ยงรูดหนัก กังวล “เดลต้า-AOT” กด แนะเก็บ PIN-ADVANC
CGSI มอง SET วันนี้เผชิญแรงกดดันร่วงลงไป หลังกำไรไตรมาส 4/67 ของ DELTA วูบ 60% อีกทั้งคิงเพาเวอร์สภาพคล่องตึง กระทบ AOT กดดันดัชนี พร้อมแนะลงทุน 2 หุ้นเด่น PIN-ADVANC
บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสานผ่านในวันศุกร์ที่ผ่านมา (14 ก.พ.68) เพื่อพิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศและเงินเฟ้อสหรัฐเพิ่มเติม หลังรับรู้ผลกระทบจากประเด็นที่ผ่านมาไปพอสมควรแล้ว ขณะที่ดัชนี Nasdaq100 ปิดบวก 0.4% ทำนิวไฮ
โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกรายสัปดาห์ ขานรับการคลายความกังวลต่อแผนเรียกเก็บภาษีของปธน. ทรัมป์ที่ชัดเจนขึ้น ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่า ขณะที่ดัชนี PPI ที่ชะลอตัวกว่าตลาดคาด สอดคล้องกับรายงานตัวเลขยอดค้าปลีกเดือนม.ค. ที่ลดลง 0.9% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมาจะต่ำกว่าตลาดคาดที่ -0.2% เมื่อเทียบกับเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.7% ส่งผลให้บอนด์ยีลด์สหรัฐ 10 ปีลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่สองสู่ระดับ 4.44%
สำหรับความกังวลต่อสงครามการค้าจากนโยบายของทรัมป์ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวนตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา สนับสนุนให้ในรายสัปดาห์ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7 แม้ว่าจะมีแรงขายทำกำไรในวันศุกร์ (-1.5%)
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลบเช่นกัน (-0.8%) หลังสหรัฐ-รัสเซีย เตรียมหารือแผนยุติสงครามยูเครน ซึ่งจะส่งผลให้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียของสหรัฐสิ้นสุดลง และอุปทานน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น ท่ามกลางรายงานว่ารัฐบาลทรัมป์ได้เสนอต่อยูเครนว่าสหรัฐควรได้รับสิทธิ์ครอบครองแร่ธาตุหายากของประเทศ 50% และส่งสัญญาณว่าอาจส่งทหารสหรัฐไปประจำการเพื่อคุ้มกันหากมีข้อตกลงยุติสงครามกับรัสเซีย
ด้านตลาดหุ้นภูมิภาค แม้ว่าตลาดหุ้นยุโรปจะปิดลบในวันศุกร์ อย่างไรก็ตาม ดัชนี STOXX600 ยังคงปรับตัวขึ้นในรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 8% ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 8 ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 1/67 จากผลประกอบการไตรมาส 4/67 ที่ออกมาสดใส ขณะที่ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเช่นกัน เผชิญแรงกดดันจากเงินปอนด์แข็งค่า และ บอนด์ยีลด์อังกฤษที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังรายงานตัวเลข GDP ในไตรมาส 4/67 เมื่อวันพฤหัสบดี (13 ก.พ.68) ขยายตัว 1.4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนสูงกว่าตลาดคาดที่ 1.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 1.0%)
ทั้งนี้ คาดว่า SET Index วันนี้จะเผชิญแรงกดดันร่วงลงไปทดสอบบริเวณ 1,250 จุด หลัง DELTA รายงานกำไรสุทธิหลักไตรมาส 4/67 อยู่ที่ 2.49 พันล้านบาท ลดลง 45% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 60% จากไตรมาสก่อนหน้า ต่ำกว่าที่ทางฝ่ายวิจัยคาด 48% และตลาดคาดไว้ 51% โดยราคาหุ้นของ DELTA ที่เปลี่ยนแปลงไป 1 บาท จะกระทบต่อดัชนี SET 1.2 จุด
ขณะที่การประชุมนักวิเคราะห์ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT หลังบริษัทรายงาน EPS ต่ำกว่าคาดเพราะรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์อ่อนตัว ทอท. ระบุว่า คิง เพาเวอร์ (KP) กำลังประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน และได้ขอเลื่อนการชำระหนี้ออกไป 18 เดือน จึงปรับลดประมาณการ EPS ปี 68-69 ลดลง 29-34% เพื่อสะท้อนถึงสถานการณ์ที่จำนวนเงินค้ำประกันขั้นต่ำประจำปีของ KP ถูกตัดลดลง 33%
วันนี้ ติดตามรายงานตัวเลข GDP ในไตรมาส 4/67 ของไทยที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 3.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/67 ที่ 1.6%, ไตรมาส 2/67 ที่ 2.2%, ไตรมาส 3/67 ที่ 3.0% ขณะที่ทั้งปี 67 ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 2.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
สำหรับปัจจัยต่างประเทศ เช้านี้ รายงานตัวเลข GDP ในไตรมาส 4/67 ญี่ปุ่น ขยายตัว 0.7% จากไตรมาสก่อนหน้าสูงกว่าตลาดคาดที่ 0.3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/67 ที่ 0.4%) ขณะที่ ข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญอื่นสัปดาห์นี้ ติดตาม 1) เงินเฟ้ออังกฤษเดือนม.ค. (19 ก.พ.68) 2) รายงานการประชุมของ FOMC และดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟียเดือนก.พ. (20 ก.พ.68) 3) ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการสหรัฐเดือนม.ค. / ยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค. (21 ก.พ.68)
หุ้นแนะนำ ดังนี้
บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ PIN คาดว่าบริษัทจะมีกำไรปกติต่อหุ้นเติบโตแข็งแกร่งในอัตรา 13.2% CAGR ในปี 67-69 และการประเมินมูลค่ายังน่าสนใจ จึงแนะนำให้สะสมหุ้นก่อนที่ PIN จะเปิดโครงการ IE ใหม่ และขยายพื้นที่ PIN 3 ในปี 68-69 (Take profit : 7.20 / Stop loss : 6.60)
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/67 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้า จากแรงหนุนของ ARPU ลูกค้าระบบเติมเงิน รวมถึงรายได้และมาร์จิ้นจากการขายเครื่องโทรศัพท์ที่แข็งแกร่ง ขณะที่ EBITDA เติบโต เพราะรายได้จากการให้บริการบรอดแบนด์เติบโตสูงและมาร์จิ้นจากการขายเครื่องโทรศัพท์ดีขึ้น (Take profit : 304 / Stop loss : 292)