โบรกแนะ “ถือ” ITC เป้า 25 บาท ลุ้นยอดขาย Q1 โตรับออเดอร์พุ่ง

“บล.เกียรตินาคินภัทร” แนะนำ “ถือ” หุ้น ITC ราคาเป้าหมาย 25 บาท คาดยอดขายไตรมาส 1 โตสวนโลว์ซีซั่น หลังมีออเดอร์ที่ได้รับการยืนยันแล้วกว่า 90% ของงบประมาณยอดขาย


บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จํากัด (มหาชน) หรือ KKPS ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (17 ก.พ.68) แนะนำ “ถือ” หุ้น บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC ราคาเป้าหมาย 25 บาท

โดย ITC เปิดเผยแนวโน้มธุรกิจปี 68 คาดการณ์ว่ายอดขายจะเติบโต 13-15% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น 16% ราคาสินค้าที่ปรับเพิ่มขึ้น 3% แต่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยด้านค่าเงินราว -6% ขณะที่กำไรขั้นต้น (GP) คาดการณ์ว่าจะเติบโต 10-12% โดยอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) อยู่ที่ประมาณ 27% ซึ่งสูงกว่าระดับที่ ITC เคยประมาณไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 9-10%

ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโตของยอดขาย ได้แก่ การขยายฐานลูกค้าใหม่ในสหรัฐฯ และยุโรป โดยมุ่งเน้นไปที่ Private Label สำหรับตลาดสหรัฐฯ และผู้นำเข้าสำหรับตลาดยุโรป ควบคู่ไปกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกับลูกค้าปัจจุบัน อีกทั้ง ITC ยังเดินหน้าขยายสัดส่วนอาหารสัตว์เลี้ยงเชิงฟังก์ชัน (เพื่อสุขภาพ) เช่น อาหารเสริมและเวชภัณฑ์

พร้อมพิจารณาโอกาสในการควบรวมกิจการ (M&A) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจ แม้ว่าราคาทูน่าจะมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น และค่าเสื่อมราคาจากโรงงานใหม่อาจกดดันต้นทุน แต่บริษัทคาดการณ์ว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดีขึ้นผ่านโครงการการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจตามแผนกลยุทธ์ของบริษัท

ด้านผลกระทบจาก Global Minimum Tax (GMT) บริษัทประเมินว่าอัตราภาษีที่แท้จริงของ ITC อาจเพิ่มขึ้นราว 3-4.5% จากการจัดสรรต้นทุนภาษีของบริษัทแม่อย่าง บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ที่ต้องเสียภาษีในอัตรา 15% ตั้งแต่เดือนม.ค.68 อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้ยังไม่รวมถึงสิทธิประโยชน์ที่อาจได้รับจากมาตรการสนับสนุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)

ทั้งนี้ แม้ว่าไตรมาส 1 ปี 68 จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจ แต่บริษัทคาดการณ์ว่ายอดขายจะปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า โดยปัจจุบันมีคำสั่งซื้อที่ได้รับการยืนยันแล้วมากกว่า 90% ของงบประมาณยอดขาย ขณะที่แรงหนุนจากแบรนด์ระดับโลกที่มีโมเมนตัมเติบโตต่อเนื่องยังช่วยเสริมภาพรวมยอดขายให้แข็งแกร่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า ITC อาจเผชิญความเสี่ยงจากฐานเปรียบเทียบของปี 68 ที่กลับสู่ภาวะปกติ (ปี 67 ยอดขายเติบโต 14% จากฐานที่ต่ำมาก) รวมถึงแนวโน้มราคาทูน่าที่ไม่เอื้ออำนวย และต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกดดันต่ออัตรากำไรขั้นต้น ถึงแม้ว่าบริษัทจะสามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ แต่มีโอกาสปรับประมาณการปี 68 ขึ้นเพียงเล็กน้อยที่ 0.5-3% เท่านั้น เนื่องจากแรงกดดันจากต้นทุนและอัตราภาษีที่เพิ่มขึ้น

Back to top button