
ตลาดอสังหาฯ ไทยชะลอตัว โบรกแนะ “ซื้อ” SIRI-AP รับเติบโตในปี 68
KS มองตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยยังซบเซา จากปัจจัยกดดันหลายด้าน ยังคงแนะนำ “ซื้อ” SIRI ราคาเป้าหมาย 2.20 บาท และ AP ราคาเป้าหมาย 9.90 บาท คาดรับมีโอกาสเติบโตแข็งแกร่งในปี 68
บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KS ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ตลาดที่อยู่อาศัยในไทยยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (2566-2567) โดยมีปัจจัยท้าทายหลายประการ เช่น การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรในไทยที่จำนวนประชากรสูงสุดผ่านไปแล้วในปี 2565, การเติบโตของ GDP ที่ชะลอตัว, การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย, การว่างงาน, หนี้ครัวเรือน และปัญหาหนี้ NPL/SML ของที่อยู่อาศัยหลังโควิด-19 รวมถึงช่องว่างระหว่างราคาที่อยู่อาศัยและอำนาจซื้อที่กว้างขึ้น ซึ่งหากปัจจัยเหล่านี้ยังคงอยู่อุปสงค์ในตลาดที่อยู่อาศัยจะยังคงลดลงและกลายเป็น “ความปกติใหม่”
โดยบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุนในโครงการแนวราบในปี 2566-2567 อาจประสบปัญหาจากการคาดการณ์อุปสงค์ที่สูงขึ้นโดยไม่คำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคหลังโควิด-19 และอุปทานส่วนเกินที่ทำให้มีสินค้าคงเหลือจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานในปี 2566-2567
สำหรับปี 2568 แม้ว่าจะยังคาดการณ์ยาก แต่คาดว่าบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะเผชิญกับปีที่ยากลำบาก โดยการเปิดตัวโครงการใหม่จะลดลงเนื่องจากสินค้าคงเหลือที่สูงและต้องเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้งบดุล อัตรากำไรจะยังคงต่ำผิดปกติ และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงความตึงเครียดทางการค้าจะเพิ่มความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้ซื้อ
อย่างไรก็ตาม บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จะได้รับประโยชน์เมื่ออุปสงค์และอุปทานกลับมาสมดุล บริษัท KS จึงคงมุมมอง “เป็นกลาง” ต่อกลุ่มที่อยู่อาศัย เนื่องจากมีความท้าทายในระยะสั้น แต่ราคาหุ้นที่น่าสนใจและอัตราตอบแทนเงินปันผล (DY) ที่สูงช่วยสนับสนุนการลงทุนในกลุ่มนี้
สำหรับหุ้นเด่นในกลุ่มที่อยู่อาศัย ดังนี้
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI โดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 2.20 บาท และบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP โดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 9.90 บาท ทั้ง 2 บริษัทคาดว่าจะมีการเติบโตแข็งแกร่งในปี 2568
บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC และบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่ดีในปี 2568
บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI และบริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH คาดว่าจะฟื้นตัวในปี 2569
บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI, บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN, และบริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH คาดจะฟื้นตัวในภายหลัง
บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH เหมาะสำหรับนักลงทุนที่เน้นมูลค่าและต้องการกำไรและ DY ที่มั่นคง