
“ทักษิณ” เข้าเฝ้ากษัตริย์บรูไน ร่วมหารือปมเมียนมา-เศรษฐกิจอาเซียน
"ทักษิณ" เข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดีฮัสซานัล โบลเกียห์ สุลต่านแห่งบรูไน ร่วมถกอนาคตอาเซียนกับนายกมาเลย์ หารือเมียนมา อาชญากรรมข้ามชาติ เศรษฐกิจ และดิจิทัล หวังขับเคลื่อนภูมิภาคสู่เสถียรภาพและความก้าวหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงาน (18 ก.พ.68) ว่า นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการประชุมอย่างไม่เป็นทางการร่วมกับสมเด็จพระราชาธิบดีฮัสซานัล โบลเกียห์ สุลต่านแห่งบรูไน และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ณ ประเทศบรูไน โดยระบุว่าการหารือครั้งนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับสมเด็จพระราชาธิบดีฯ ซึ่งเป็นผู้นำอาเซียนที่อาวุโสที่สุดและมีประสบการณ์อันล้ำค่าในหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภูมิภาค
สำหรับสถานการณ์ในเมียนมา ที่ประชุมเห็นพ้องกันว่า แม้รัฐบาลเมียนมายังคงยึดมั่นในฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน แต่ยังจำเป็นต้องดำเนินการต่อไปอย่างจริงจัง โดยต้องประสานงานกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติที่กำลังขยายตัวขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ และการหลอกลวงทางออนไลน์ ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของภูมิภาค
การประชุมยังได้หารือถึงแนวทางเร่งรัดการจัดประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการเสนอขึ้นในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่เมืองลังกาวีเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ โดยเน้นถึงความสำคัญของการดำเนินการทางการทูตแบบพหุภาคี เพื่อให้เกิดความคืบหน้าในการเจรจาเกี่ยวกับแนวปฏิบัติในทะเลจีนใต้ (COC)
ประเด็นทางเศรษฐกิจเป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่ได้รับความสนใจ โดยที่ประชุมให้ความสำคัญกับแนวทางส่งเสริมการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจภายในอาเซียน รวมถึงการสร้างกรอบกฎระเบียบที่เอื้อต่อภาคธุรกิจและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เป้าหมายหลักคือการกระตุ้นให้เงินทุนหมุนเวียนภายในภูมิภาคอย่างคึกคัก เพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการหารือเกี่ยวกับแนวทางพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล โดยเฉพาะเรื่องสกุลเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งถูกมองว่าเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างโอกาสและเพิ่มการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับประชาชนในภูมิภาค เพื่อผลักดันให้อาเซียนก้าวหน้าและทันสมัยยิ่งขึ้น นายอันวาร์สรุปว่า การหารือครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญของความร่วมมือระดับภูมิภาคในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และผลักดันให้อาเซียนก้าวไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป