
CPNREIT โชว์รายได้ 67 ทะลุ 6 พันล้าน แจกปันผล 0.266 บาท ยีลด์สูง 8.6%
CPNREIT ทำกำไรจากการลงทุนสุทธิเพิ่มขึ้น 6% เป็น 4,162 ล้านบาท ประกาศจ่ายเงินให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์ 0.266 บาทต่อหน่วย ยีลด์สูง 8.6% ขึ้น XD และ XN วันที่ 27 ก.พ.นี้
นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ กรรมการ บริษัท ซีพีเอ็น รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ผู้จัดการกองทรัสต์ CPNREIT เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปี 2567 ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNREIT) สามารถทำผลงานเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
โดยมีรายได้รวม 6,074 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากการบริหารโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ แบ่งเป็น 1) ธุรกิจศูนย์การค้า มีรายได้ค่าเช่าและบริการ 4,711 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าเช่าตามส่วนแบ่งยอดขายและรายได้จากพื้นที่ส่วนกลาง 2) ธุรกิจอาคารสำนักงาน มีรายได้ค่าเช่าและบริการ 930 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากการรับรู้รายได้ค่าปรับจากพื้นที่ทั้งหมดที่ บจก. ยูนิลีเวอร์ ไทยเทรดดิ้ง ขอลดพื้นที่และการปรับขึ้นค่าเช่าตามสัญญา
และ 3) ธุรกิจโรงแรม มีรายได้ค่าเช่าจำนวน 395 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากการปรับขึ้นค่าเช่ารายปีตามสัญญา และส่วนที่เหลืออีก 39 ล้านบาทมาจากรายได้อื่นๆ ขณะเดียวกัน สามารถรักษาอัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) เฉลี่ย 91% และมีจำนวนผู้ใช้บริการศูนย์การค้าเฉลี่ย 89% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว การบริโภคภาคเอกชน และการสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ขณะที่กำไรจากการลงทุนสุทธิทำได้ 4,162 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าเช่าตามส่วนแบ่งยอดขายและรายได้จากพื้นที่ส่วนกลาง และส่วนลดค่าเช่าที่ลดลง ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 CPNREIT ได้ประสบความสำเร็จในการเพิ่มทุนและต่อสัญญาโครงการเซ็นทรัล ปิ่นเกล้าต่ออีก 15 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568- 31 ธันวาคม 2582 เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ CPNREIT สามารถให้ผลตอบแทนเงินปันผลที่มั่นคงในระยะยาว โดย ณ สิ้นปี 2567 CPNREIT มีสินทรัพย์รวม 92,102 ล้านบาท โดยมีสินทรัพย์ที่ลงทุนอยู่ ได้แก่ ศูนย์การค้า 7 โครงการ อาคารสำนักงาน 4 อาคาร และโรงแรม 1 แห่ง
ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2567 กองทรัสต์มีรายได้รวม 1,531 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และเซ็นทรัล ปิ่นเกล้าอยู่ระหว่างรีโนเวตใหญ่ทำให้รายได้ค่าเช่าลดลง อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมผลกระทบจากการรีโนเวตทั้งสองโครงการ รายได้รวมจะเติบโต 3% จากรายได้ค่าเช่าตามส่วนแบ่งยอดขาย การเพิ่มขึ้นของค่าเช่าตามสัญญา และส่วนลดค่าเช่าที่ลดลง ขณะที่กำไรจากการลงทุนสุทธิทำได้ 1,009 ล้านบาท ลดลง 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตามหากไม่รวมผลกระทบของการปรับปรุงทรัพย์สินทั้งสองโครงการ จะมีกำไรจากการลงทุนสุทธิเพิ่มขึ้น 4%
ล่าสุด กองทรัสต์ฯ ได้พิจารณาจ่ายเงินให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์จากผลการดําเนินงานในไตรมาส 4/2567 ที่อัตรา 0.266 บาทต่อหน่วย แบ่งเป็นเงินปันผล 0.0987 บาทต่อหน่วย และเงินลดทุน 0.1673 บาทต่อหน่วยโดยมีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD และ XN วันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ และกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยทรัสต์ (Book Closing) เพื่อสิทธิรับประโยชน์ตอบแทนในวันที่ 3 มีนาคม 2568 และจ่ายเงินในวันที่ 17 มีนาคม 2568
ทั้งนี้ เมื่อรวมกับการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน 9 เดือนแรกปี 2567 กองทรัสต์จะจ่ายประโยชน์ตอบแทนที่อัตรารวม 1.0620 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบแทน (yield) ถึง 8.6% เมื่อเทียบกับราคาตลาด ณ สิ้นปี 2567 (12.30 บาทต่อหน่วย)
นางสาวนภารัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปี 2568 CPNREIT ตั้งเป้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง รักษาอัตราการเช่าพื้นที่สูงกว่า 90% แม้มีการปรับปรุงศูนย์การค้า 2 โครงการในปี 2568 – ต้นปี 2569 และรักษาการจ่ายประโยชน์ตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยทรัสต์อย่างยั่งยืน ผ่าน 3 แนวทางหลัก
ได้แก่ 1) การเติบโตของทรัพย์สินที่กองทรัสต์ลงทุนปัจจุบัน ทั้งอัตราการเช่าพื้นที่ การปรับขึ้นค่าเช่า และการใช้พื้นที่ส่วนกลางสร้างรายได้เพิ่มให้กับกองทรัสต์ 2) การลงทุนในทรัพย์สินที่มีคุณภาพและอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพเพิ่มเติม ด้วยโครงสร้างเงินทุนที่เหมาะสมและสามารถสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้ผู้ถือหน่วยลงทุน และ 3) การปรับปรุงทรัพย์สินให้จัดหาประโยชน์ได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการปรับปรุงศูนย์การค้าให้ทันสมัย พร้อมจัดหาร้านค้าที่ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการ เพื่อเพิ่มจำนวนผู้เข้าใช้บริการในศูนย์มากยิ่งขึ้น โดยได้ทยอยปรับปรุงโครงการเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า และเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น