
“แพทองธาร” ต้อนรับนายกฯ สปป.ลาว ตั้งเป้าการค้าปี 70 แตะ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์
รัฐบาลไทย-ลาว เดินหน้าสร้างความร่วมมือรอบด้าน “แพทองธาร” เปิดทำเนียบฯ ต้อนรับ “สอนไซ สีพันดอน” นายกฯ สปป.ลาว เร่งเครื่องพัฒนาการค้าทวิภาคีแตะ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปี 2570 พร้อมลงนามข้อตกลง 4 ฉบับ เสริมความร่วมมือ ด้านกฎหมาย-โลจิสติกส์-การศึกษา-ภาคธุรกิจ
นาวสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับ นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล (Official Visit) โดยนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศได้ร่วมพิธีตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ จากนั้นได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามและการแลกเปลี่ยนความตกลงร่วมกัน จำนวน 4 ฉบับ ดังนี้
- แผนดำเนินการปี 2568-2570 เพื่อดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยความร่วมมือด้านกิจการยุติธรรมและกฎหมายระหว่างกระทรวงยุติธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงยุติธรรมแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
- บันทึกการดำเนินการด้านเทคนิค สำหรับการขนส่งผู้โดยสารทางรถไฟ ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งชาติลาว
- บันทึกความเข้าใจเพื่อความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ราชอาณาจักรไทย และมหาวิทยาลัยสุภานุวงศ์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
- บันทึกความเข้าใจระหว่างคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน กับสภาการค้า และอุตสาหกรรมแห่งชาติลาว
ผู้นำทั้งสองยังได้ร่วมเปิดตัว ตราสัญลักษณ์เฉลิมฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว ครบ 75 ปี โดยออกแบบในโทนสีเหลืองทอง ด้านบนเป็นรูปจั่วทรงไทย-ลาว 2 ชั้น ประกอบด้วย วัดพระธาตุศรีสองรักและวัดพระธาตุหลวงเวียงจันทน์ โดยมีตัวเลข 75 อยู่ตรงกลาง พร้อมด้วยดอกราชพฤกษ์ไทยและดอกจำปาลาว ล้อมรอบด้วยธงชาติของทั้งสองประเทศที่จัดวางเป็นรูปหัวใจ
นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ยินดีต้อนรับนายสอนไซ ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการเป็นประเทศแรก ภายหลังเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว พร้อมเริ่มต้นการฉลองครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาวในปีนี้ด้วย โดยต่างเห็นพ้องที่จะเร่งขับเคลื่อนความร่วมมือไทย-ลาว ให้เจริญก้าวหน้าไปด้วยกัน และส่งเสริมความกินดี อยู่ดี ของประชาชนใน 3 ด้านหลัก ได้แก่
ประการแรก เสริมสร้างให้พื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศมีความมั่นคง เพิ่มความเข้มข้น ด้านยาเสพติด ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติของทั้ง 2 ประเทศ การแลกเปลี่ยนข่าวสารและขยายผลการสืบสวนสอบสวนของชุดปฏิบัติการและคณะทำงานร่วม และส่งเสริมความร่วมมือในระดับท้องถิ่นและระดับหมู่บ้าน นอกจากนี้สนับสนุนการพัฒนาทางเลือกเพื่อปลูกพืชทดแทนยาเสพติด ซึ่งไทยได้เริ่มดำเนินการแล้ว ที่แขวงหัวพันและแขวงบ่อแก้ว
ด้านปัญหาแก็งคอลเซ็นเตอร์ ทั้ง 2 ประเทศจะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด โดยถือเป็นปัญหาร่วมกันในภูมิภาค ซึ่งไทยได้เสนอให้ใช้ประโยชน์จากกรอบแม่โขง-ล้านช้าง ที่ไทยเป็นประธานในปีนี้ เพื่อผลักดันความร่วมมืออย่างจริงจังในภูมิภาค ชื่นชมรัฐบาล สปป.ลาว ที่ปราบปรามกลุ่มอาชญากรรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายไทยพร้อมสนับสนุนในการขยายผลการปราบปรามและการสอบสวน เพื่อเอาผิดกับผู้อยู่เบื้องหลังผ่านศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศของไทย
ด้านหมอกควันข้ามแดน จะผลักดันให้มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดตั้งห้องปฏิบัติการเพื่อติดตามและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันเพิ่มเติม และการขยายผลโครงการนำร่องการจัดทำแนวกันไฟลดการเผาคู่ขนานในพื้นที่สองประเทศ นอกจากนี้ฝ่ายไทยเสนอเชื่อมโยงฐานข้อมูล (database) และระบบเตือนภัยล่วงหน้า (early warning) ของ สปป. ลาว เข้ากับระบบของ GISTDA เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาด้วย
ด้านการแก้ไขปัญหาอุทกภัย ยินดีที่ระบบโทรมาตรที่ไทยสนับสนุนการติดตั้ง มีส่วนช่วยแจ้งเตือนระดับน้ำใน สปป. ลาว โดยพร้อมสนับสนุนการติดตั้งระบบโทรมาตรในสปป. ลาวเพิ่มเติม โดยเฉพาะในลำน้ำสาขาของแม่น้ำโขง และการเชื่อมโยงเครือข่ายโทรมาตรต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพของระบบแจ้งเตือนและการบริหารจัดการน้ำ
ประการที่ 2 สร้างการเจริญเติบโตและความมั่งคั่งร่วมกัน โดยด้านการค้า เห็นพ้องที่จะบรรลุเป้าหมายการค้าทวิภาคีที่ 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2570 นางสาวแพทองธาร ขอบคุณ นายสอนไซ ที่ได้ช่วยติดตามและอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าเกษตรของไทยผ่านแดนไปจีน ทั้งการเพิ่มจำนวนขบวนรถไฟขนส่งผลไม้และการเพิ่มช่องตรวจปล่อยสินค้าบริเวณจุดผ่านแดนลาว-จีน นอกจากนี้ จะร่วมมือกันลดการเผาในอุตสาหกรรมการเกษตรของ 2 ประเทศด้วย
ด้านการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ มีความคืบหน้าหลายโครงการ ทั้งการเสริมกำลังสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 และการก่อสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ 5 ที่จะพร้อมเปิดใช้งานในปลายปีนี้ รวมทั้งจะร่วมกันจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ และสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ให้มีความก้าวหน้า ได้แก่ โครงการก่อสร้างสะพานรถไฟแห่งใหม่ที่จังหวัดหนองคาย โครงการเชื่อมต่อรถไฟไทย-ลาว กับระบบรถไฟลาว-จีน และการเชื่อมต่อระบบรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน กับระบบรถไฟลาว-จีน นอกจากนี้จะส่งเสริมให้มี joint venture ระหว่างภาคเอกชนไทย-ลาว เพื่อบริหารจัดการการขนส่งและโลจิสติกส์ในภูมิภาค โดยมีกิจกรรม Thai-Lao Business Forum ซึ่งจะเป็นโอกาสให้ภาคเอกชนไทย-ลาว ได้พูดคุยกันถึงความเป็นไปได้ในเรื่องนี้
และสุดท้าย ประการที่ 3 สร้างเสริมสายสัมพันธ์พิเศษระดับประชาชน ไทยและสปป. ลาว มีความสัมพันธ์ที่ดีและยาวนาน และประชาชนสองฝั่งก็มีความผูกพันเป็นดั่งเครือญาติ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว ทั้งสองฝ่ายจะจัดกิจกรรมเพื่อฉลองวาระพิเศษนี้ตลอดทั้งปี โดยไทยพร้อมมอบทุนการศึกษาจำนวนกว่า 75 ทุน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์อันยาวนาน และช่วยพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และเยาวชนของสปป. ลาว นอกจากนี้พร้อมสนับสนุนด้านสาธารณสุขต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากรด้านการแพทย์ การสนับสนุนเซรุ่มแก้พิษงู และด้านการเกษตร ผ่านโครงการในพระราชดำริต่าง ๆ ซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนลาว