4 หุ้นเด่นเนื้อหอม! ลุ้นเข้า SET50/SET100 หลังควบรวม GULF-INTUCH

“บล.กรุงศรี” แนะเก็งกำไร VGI-MOSHI-THCOM-KAMART ลุ้นเข้าคำนวณดัชนี SET50-SET100 หลังควบรวม GULF-INTUCH โบรกชี้ VGI มีโอกาสสูงถึง 95% เข้า SET50 พ่วงเป้าเพิ่มน้ำหนักลงทุนจาก Passive Fund


จากกรณีการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF และ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ทำให้นักวิเคราะห์ออกมาประเมินประเด็นดังกล่าวว่าจะส่งผลโดยตรงต่อการปรับโครงสร้างพอร์ตของ SET50 และ SET100 และมองว่านักลงทุนมีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนจากการเพิ่มน้ำหนักในหุ้นที่โอกาสสูงในการเข้าสู่ดัชนี SET50 และ SET100 ในครั้งนี้

ดังนั้นทีม “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงทำการรวบรวมข้อมูลหลักทรัพย์ที่คาดว่าจะมีโอกาสเข้าคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 จากประเด็นดังกล่าวมานำเสนอ โดยอาศัยข้อมูลจากบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ซึ่งระบุข้อมูลไว้ดังนี้

KSS ประเมินสถานการณ์การปรับพอร์ตระหว่างกาลของดัชนี SET50 และ SET100 จากการควบรวมกิจการระหว่าง GULF และ INTUCH ซึ่งจะกลายเป็นบริษัทใหม่โดยชื่อภาษาไทยคือ บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และชื่อภาษาอังกฤษ Gulf Development Public Company Limited โดยใช้ชื่อย่อหุ้น GULF โดยคาดว่าจะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 3 เมษายนนี้

โดยการควบรวมกิจการนี้มีผลต่อการปรับหุ้นที่จะเข้า SET50 และ SET100 ใหม่ในระหว่างกาลดัชนีละ 1 บริษัท ซึ่ง KSS ได้ประเมินหุ้นที่มีโอกาสเข้า SET50 และ SET100 ใหม่จากประเด็นดังกล่าว โดน SET50 คาดมี 1 บริษัทใหม่เข้าระหว่างกาล Rebalance สิ้นวันที่ 2 เม.ย. คือ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ซึ่งมีโอกาสสูงถึง 95% ที่จะเข้าร่วม SET50 หลังการควบรวมกิจการ GULF-INTUCH

ส่วน SET100 คาดมี 1 บริษัทใหม่คาดมีโอกาสได้เข้าในช่วงระหว่างกาลนี้โดยเรียงลำดับได้ดังนี้ บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI มีโอกาสประมาณ 50%, บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM มีโอกาสประมาณ 30% และ บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ KAMART มีโอกาส 20%

โดยกลยุทธ์ลงทุนคาดหุ้นที่ถูกนำเข้า SET50-SET100 จะถูกเพิ่มน้ำหนักจาก Passive Fund โดยมองเป็นบวกต่อราคาหุ้นโดยในส่วน SET50 แนะนำเก็งกำไร VGI (โดย BTS บริษัทแม่ถือหุ้น 57.1%) ส่วน SET100 แนะนำเก็งกำไร MOSHI 

สำหรับ VGI แนะนำราคาเป้าหมายราคา 25 บาท โดยคาดว่าในไตรมาส 4 ของปี 2568(สิ้นสุด มี.ค.68) กำไรของ VGI จะอ่อนตัวลงเทียบไตรมาสก่อหน้า จากการผ่านพ้นช่วงฤดูกาลที่มีรายได้สูงสุดในธุรกิจสื่อโฆษณา และต้นทุนและค่าใช้จ่าย SG&A มีแนวโน้มสูงขึ้นจากการเป็นงวดสิ้นปี และไม่มีรายได้เงินปันผลรับเหมือนไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตามราคาหุ้นยังคงมีความน่าสนใจในการเก็งกำไรโดยประเมินการซื้อขายที่ PBV 1.5-1.6 เท่า คาดว่าจะมีการเติบโตในระยะยาวเมื่อเข้าสู่ SET50

ด้าน MOSHI แนะนำราคาเป้าหมายราคา 64 บาท โดยคาดกำไรสุทธิในไตรมาส 4 ปี/676 จะเติบโต 25% เมื่อเทียบกับปีก่อน และโต 76% เทียบไตรมาสก่อนหน้า และกำไรปกติ 220 ล้านบาท จะเติบโต 33% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปี จากการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม(SSSG) คาดโต 15% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการปรับ Display และเพิ่มสินค้า รวมถึง Margin ขยายตัว โดยรวมกำไรปี 2567 สูงตามคาดและคงกำไรปี2568 โต 26% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปี ภายใต้สาขาเชิงรุก และ SSSG เติบโตต่อเนื่องและปรับตัวไวภายใต้การแข่งขันยังจำกัด นอกจากนี้ประเมินซื้อขายที่ PER 22 เท่า

ทั้งนี้สำหรับมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เกตแคปของหุ้น VGI,MOSHI,THCOM,KAMART ณ วันที่ 20 ก.พ.68 มีดังนี้ VGI มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดประมาณ 63,200 ล้านบาท ส่วน MOSHI มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดประมาณ 13,447.50 ล้านบาท ส่วน THCOM มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดประมาณ 12,934 ล้านบาท และ KAMART มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดประมาณ 13,089.97 ล้านบาท

อนึ่งสำหรับดัชนี SET50-SET100 ที่จัดทำขึ้นเพื่อแสดงระดับและความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นสามัญ 50 หลักทรัพย์ และ 100 หลักทรัพย์ ตามลำดับที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูง มีสภาพคล่องสม่ำเสมอ และมีการกระจายหุ้นที่เหมาะสม โดยใช้วิธีการคำนวณแบบถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization Weight) แต่จะไม่นำหุ้นที่ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP เกิน 20 วันมารวมในการคำนวณ ซึ่งจะให้วันที่ 16 สิงหาคม 2538 (SET50) และวันที่ 30 เมษายน 2548 (SET100) เป็นวันฐาน

โดยตลาดหลักทรัพย์ฯจะทำการปรับรายการหลักทรัพย์ที่ใช้ในการคำนวณ SET50 Index และ SET100 Index ทุก ๆ 6 เดือน (มกราคมและกรกฎาคม) ในการพิจารณาคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ใช้ในการคำนวณดัชนีทั้งสองนั้น พิจารณาจากหลักเกณฑ์ด้านมูลค่าตามราคาตลาด สภาพคล่อง และการกระจายหุ้น โดยคัดเลือกจากกลุ่มหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าตามราคาตลาดเฉลี่ยย้อนหลัง 12 เดือน สูงสุด 200 อันดับแรก ซึ่งมีสภาพคล่องหรือมูลค่าการซื้อขายสูงอย่างสม่ำเสมอ และมีการกระจายหุ้นให้ผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free Float) ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 แล้วนำมาเรียงลำดับตามมูลค่าตามราคาตลาด โดยหลักทรัพย์ใน 50 อันดับแรกใช้ในการคำนวณ SET50 Index และหลักทรัพย์ 100 อันดับแรก ใช้ในการคำนวณ SET100 Index

Back to top button