
COCOCO โกยกำไรปี 67 โต 27% แตะ 686 ล้านบาท รับยอดขายพุ่ง! แจกปันผล 0.30 บ.
COCOCO รายงานกำไรสุทธิปี 67 อยู่ที่ 686.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.07% จากปีก่อน หนุนโดยรายได้จากการขายและบริการ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อย่างผลิตภัณฑ์กะทิ, น้ำมะพร้าว, อาหารสัตว์เลี้ยง อีกทั้งมีจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 29 เม.ย. 2568 กำหนดจ่ายปันผลวันที่ 20 พ.ค. 68
บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO รายงานผลการดำเนินงานปี 2567 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 มีกำไรสุทธิ ดังนี้
บริษัทรายงานงบปี 2567 มีกำไรสุทธิ 686.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.07% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 540.17 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการในปี 2567 เท่ากับ 6,584.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,929.87 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 41.46% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
โดยมีรายได้จากการขายและบริการต่างประเทศของปี 2567 เท่ากับ 5,774.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,757.93 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 43.77% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากบริษัทฯ มีการจำหน่ายทุกผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าความต้องการในสินค้าและปริมาณคำสั่งซื้อจะยังคงเพิ่มขึ้นทั้งจากกลุ่มลูกค้าปัจจุบันและลูกค้ารายใหม่ โดยบริษัทฯ ได้มีการวางแผนการขายและเพิ่มกลยุทธ์การตลาด มีการออกงานแสดงสินค้าและสำรวจตลาดเครื่องดื่มในต่างประเทศ เพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่ายและขยายฐานลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้น รวมถึงให้ความสำคัญกับการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าเดิม เพื่อสร้างยอดขายให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
ขณะที่รายได้จากการขายและบริการในประเทศ ของปี 2567 เท่ากับ 810.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 171.94 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 26.91% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากการเติบโตของรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์กะทิและผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าว และการเติบโตของรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงจากกลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัทฯ ในการหาลูกค้ารายใหม่ภายในประเทศ และการที่บริษัทฯ สามารถขยายฐานลูกค้าเดิมผ่านสาขาของร้านค้าปลีกที่มีอยู่ทั่วประเทศได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
สำหรับปี 2567 บริษัทฯ มีสัดส่วนการส่งออกคิดเป็น 87.69% ของรายได้จากการขายและบริการ ซึ่งเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า พบว่า บริษัทฯ มียอดขายในภูมิภาคอเมริกาเพิ่มขึ้น 48.55% ภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้น 47.58% ภูมิภาคตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น29.14% ภูมิภาคยุโรปเพิ่มขึ้น 21.63% ภูมิภาคแอฟริกาเพิ่มขึ้น 17.10% นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเห็นโอกาสการเติบโตเพิ่มขึ้นของปริมาณการบริโภคผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวที่เป็นสินค้ายอดนิยมของกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ โดยบริษัทฯ ได้มีการออกงานแสดงสินค้าและศึกษาตลาดเครื่องดื่มอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีรายได้ดอกเบี้ยและรายได้อื่น ในปี 2567 เท่ากับ 34.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเท่ากับ 9.56 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 38.81% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากรายได้จากการชดเชยมุมน้ำเงิน ซึ่งเป็นรายได้จากค่าภาษีอากรชดเชย สำหรับการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ประเภทน้ำมะพร้าวที่มียอดขายเพิ่มขึ้นและรายการดอกเบี้ยรับจากเงินที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) คงค้าง
ด้าน ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ COCOCO เปิดเผยว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อย รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2567 มีรายได้รวม 6,619.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.44% และมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 686.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.26% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เป็นผลมาจากการเติบโตของยอดขายทั้งต่างประเทศและในประเทศที่เพิ่มขึ้น ตามความต้องการของตลาด ซึ่งมีรายได้เติบโตจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชียและภูมิภาคอื่นๆ โดยเฉพาะจากการขยายตัวของตลาดน้ำมะพร้าวในประเทศจีนที่มีอุปสงค์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเติบโตของกลุ่มตลาดเครื่องดื่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการขยายตัว ประกอบกับ บริษัทฯ ใช้กลยุทธ์การขยายช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ ช่วยเสริมให้ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทฯ ได้แก่ น้ำมะพร้าว กะทิ และอาหารสัตว์เลี้ยง มียอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้จากการขายและบริการขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ
ต้นทุนขายและบริการในปี 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.27% โดยเป็นผลจากยอดขายผลิตภัณฑ์กะทิที่ขยายตัวสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้บริษัทฯ ต้องจัดหาวัตถุดิบเพิ่มเติมในราคาที่สูงขึ้นจากผลกระทบของปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Niño) ส่งผลกระทบต่อราคาวัตถุดิบและต้นทุนการผลิต แม้บริษัทฯ จะมีการสำรองวัตถุดิบล่วงหน้าประมาณ 6 เดือน แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้น
ดร.วรวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมแผนบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบริษัทฯ ได้พิจารณาเข้าลงทุนจัดตั้งโรงงานที่ประเทศฟิลิปปินส์ จะช่วยให้สามารถเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบมะพร้าวที่มีต้นทุนต่ำ ช่วยเพิ่มความสามารถในการควบคุมต้นทุนวัตถุดิบในระยะยาว และควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินมาตรการบริหารจัดการต้นทุนผ่านการปรับปรุงกระบวนการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักร เพื่อเสริมสร้าง Economy of Scale และดำเนินโครงการลดต้นทุนด้านพลังงาน อาทิ การติดตั้ง Solar Rooftop ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิตในระยะยาวและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของบริษัทฯ
“บริษัทฯ มีกำไรสุทธิปี 2567เพิ่มขึ้นตามยอดขายต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นตามความต้องการของตลาด แต่ในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 กำไรสุทธิลดลง โดยเป็นผลชั่วคราวมาจากการขายผลิตภัณฑ์กะทิที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้บริษัทฯ ต้องมีการซื้อวัตถุดิบสำหรับผลิตกะทิเพิ่มเติมโดยมีราคาเฉลี่ยสูงขึ้น จากปัจจัยต้นทุนขายและบริการ ส่งผลให้ต้นทุนสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับในไตรมาสที่ 4 จะเป็นช่วงฤดูหนาว(Low Season) ของอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม อย่างไรก็ตาม COCOCO ให้ความสำคัญ เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมแผนบริหารจัดการไว้ในระยะยาว” ดร.วรวัฒน์ กล่าว
สำหรับในปี 2567 บริษัทฯ มีสัดส่วนการส่งออก 87.69% ของรายได้จากการขายและบริการ โดยมียอดขายในภูมิภาคอเมริกาเพิ่มขึ้น 48.55% ภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้น 47.58% ภูมิภาคตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น 29.14% ภูมิภาคยุโรปเพิ่มขึ้น 21.63% และภูมิภาคแอฟริกาเพิ่มขึ้น 17.10% นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเห็นโอกาสการเติบโตเพิ่มขึ้นของปริมาณการบริโภคผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวที่เป็นสินค้ายอดนิยมของกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ COCOCO เดินหน้าขยายตลาดทั่วโลก พร้อมพัฒนากลยุทธ์บริหารต้นทุน หวังเสริมศักยภาพการแข่งขันในระยะยาว
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 มีมติให้นำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผล สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท สำหรับหุ้นสามัญจำนวน 1,470,000,000 หุ้น คิดเป็นเงินปันผลจ่ายจำนวน 441,000,000 บาท ซึ่งคิดเป็นอัตราจ่ายปันผล 67.97% ของกำไรสุทธิประจำปี 2567
การจ่ายเงินปันผลดังกล่าว ต้องรอการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 30เมษายน 2568 และกำหนดจ่ายปันผลเป็นเงินสดในวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ทั้งนี้กำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ในวันอังคารที่ 22 เมษายน 2568 เวลา 14.00 น. ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์