SNNP โชว์กำไรปี 67 แตะ 651 ล้านบาท รับยอดขายทั้งใน-ต่างประเทศ

SNNP รายงานกำไรสุทธิปี 2567 ที่ 651.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.42% จากปีก่อน รับยอดขายเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP รายงานผลการดำเนินงานปี 2567 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 มีกำไรสุทธิ ดังนี้

บริษัทรายงานงบปี 2567 มีกำไรสุทธิ 651.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.42% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 635.78 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากบริษัทฯ มีการเติบโตของยอดขายในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้จากการขายในประเทศเท่ากับ 4,654.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 262.2 ล้านบาทหรือร้อยละ 6.0 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

สำหรับธุรกิจในประเทศ ปี 2567 บริษัทมีการเติบโตของยอดขายอย่างต่อเนื่องในทุกไตรมาส และมีรายได้จากการขายในประเทศสูงสุดในไตรมาสที่ 4/67 เท่ากับ 1,259.1 ล้านบาท เติบโต 149.5 ล้านบาทหรือร้อยละ 13.5 เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยได้รับปัจจัยบวกจากการเติบโตทางศรษฐกิจที่เติบโตร้อยละ 2.7 ในปี 67 และการบริโภคภาคเอกชนที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวของภารท่องเที่ยวและการส่งออก โดยในปี 67 ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องที่ยวต่างต่างชาติทั้งหมด 35.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.3 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าและสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 1.7 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.0 จากปีก่อนหน้า

นอกจากนี้ บริษัทยังคงรักษาส่วนแบ่งการตลาดอันดับหนึ่งของประเทศในกลุ่มผลิตภัณฑ์เจเล่ และเบนโตะ โดยครองส่วนแบ่งการตลาดที่ร้อยละ 80.6 และ 75.8 ตามลำดับ รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์โลตัส-ดอกบัวและเมจิกฟาร์ม ที่มีการเติบโตของยอดขายอย่างต่อเนื่อง มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์และหลากหลายมากขึ้น เช่น โลตัสขนมน่องไก่ รสไก่ย่างน้ำจิ้มแจ่ว และเมจิกฟาร์ม เฟรช คอมบูฉะ

อีกทั้งธุรกิจในต่างประเทศ บริษัทมีการเติบโตของยอดขายในต่างประเทศกลับมาในไตรมาสที่ 4/67 หลังจากที่ได้ดำเนินการปรับปรุงรูปแบบการกระจายสินค้าแบบดั้งเดิม โดยเข้าไปทำงานร่วมกับคู่ค้า คัดเลือกตัวแทนกระจายสินค้า (Distribution Partner) จากการให้ความร่วมมือกับบริษัทเป็นหลักเพื่อแก้ไขปัญหาการกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทุกพื้นที่และเตรียมพร้อมสำหรับการขยายตลาดในประเทศเวียดนามที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มดำเนินการในไตรมาสที่ 2/67 และแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4/67 รวมถึงการได้รับปัจจัยบวกจากการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศเวียดนามที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) เติบโตเร่งขึ้นมา คิดเป็นร้อยละ 7.5 ในไตรมาสที่ 4/67 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้า

นอกจากนี้ การขยายตลาดต่างประเทศของบริษัทที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องและรัดกุมรวมถึงการเห็นโอกาสและศักยภาพ เสริมความแข็งแกร่งในการขยายตลาดการขายในประเทศที่มีศักยภาพ เช่น ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย จีน ไต้หวัน และเกาหลีใต้ โดยบริษัทได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายที่มีความชำนาญในการกระจายสินค้าทั้งในรูปแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) และรูปแบบสมัยใหม่ (Modern Trade) รวมถึงการเพิ่มสินค้าเข้าไปจำหน่ายให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ส่งผลให้บริษัทมีรายได้จากการขายในต่างประเทศกลับมาในไตรมาสที่ 4/67 โดยเฉพาะยอดขายในประเทศเวียดนาม

Back to top button