“หุ้นเอเชีย” ผันผวนตาม “ดาวโจนส์” ปิดร่วง กังวลมาตรการภาษี “ทรัมป์”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ (21 ก.พ.68) เปิดผันผวน โดยตลาดปรับตัวในกรอบแคบหลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงกว่า 400 จุดในวันพฤหัสบดี (20 ก.พ.) หลังจากวอลมาร์ท (Walmart) ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดในโลกเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์กำไรที่อ่อนแอ ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ

ด้านดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 38,523.07 จุด ลดลง 154.97 จุด หรือ -0.40% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 23,090.03 จุด เพิ่มขึ้น 513.05 จุด หรือ +2.27% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,356.69 จุด เพิ่มขึ้น 5.91 จุด หรือ +0.18% ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลง 0.14% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียดีดตัวขึ้น 0.18%

ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ โดยล่าสุดปธน.ทรัมป์เปิดเผยว่า เขามีแผนที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ เซมิคอนดักเตอร์ ยา ไม้แปรรูป และสินค้าอื่น ๆ “ในเดือนหน้าหรือเร็วกว่านั้น”

ส่วนนักลงทุนประเมินข้อมูลเงินเฟ้อของญี่ปุ่น โดยกระทรวงฝ่ายกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (21 ก.พ.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (Headline CPI) พุ่งขึ้น 4% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2566 และอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ด้านดัชนี CPI พื้นฐานเดือนม.ค. ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งกว่าในเดือนธ.ค. 2567 ที่เพิ่มขึ้น 3.6% และยังคงสูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ของ BOJ ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 34