SNNP ไฟเขียวปันผล 0.35 บ. ขึ้น XD 7 พ.ค. พ่วงเพิ่มวงเงินซื้อหุ้นคืน 750 ล้านบาท

บอร์ด SNNP แจกเงินปันผล 0.35 บาท ขึ้น XD วันที่ 7 พ.ค. กำหนดจ่าย 21 พ.ค. 68 พร้อมอนุมัติเพิ่มวงเงิน “ซื้อหุ้นคืน” ใหม่ไม่เกิน 750 ล้านบาท จากเดิม 640 ล้านบาท กางแผนปี 68 ออกสินค้าใหม่หนุนรายได้โตต่อเนื่อง


นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ  บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP ผู้นำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยวของประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2567 มีกำไรสุทธิฯ 651.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.4 ล้านบาท หรือ 2.4% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิฯ 635.8 ล้านบาท และมีรายได้รวมปี 2567 อยู่ที่ 5,983.4 ล้านบาท

โดยปัจจัยที่สนับสนุนมาจากยอดขายของทุกผลิตภัณฑ์ทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก และการทยอยออกสินค้าใหม่วางจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบริหารจัดการต้นทุนอย่างเป็นระบบและเป็นรูปธรรม มีการนำการบริหารจัดการจัดซื้อจัดจ้าง การพัฒนากระบวนการผลิตจนถึงสินค้าส่งถึงมือลูกค้า รวมถึงการบริหารจัดการในส่วนของสำนักงาน ด้วยการบริหารจัดการทั้งหมดนี้ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิฯฯต่อยอดขายเพิ่มขึ้น และนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดเพิ่มในอัตรา 0.35 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 7 พ.ค. 2568 กำหนดจ่ายวันที่ 21 พ.ค. 2568 ทั้งนี้ บริษัทจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแล้วหุ้นละ 0.25 บาท รวมทั้งปีเท่ากับ 0.60 บาท/หุ้น สำหรับผลการดำเนินงานปี 2567

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯมีมติปรับเพิ่มวงเงินโครงการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) สูงสุดวงเงินไม่เกิน 750 ล้านบาท จากเดิม 640 ล้านบาท และจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น จากเดิม 40 ล้านหุ้น ซึ่งจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนคิดเป็นอัตรา 6.25% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ  การเพิ่มวงเงินการซื้อหุ้นคืนในครั้งนี้ เนื่องจากบริษัทฯมั่นใจในธุรกิจและการเติบโตที่ที่ดีในอนาคต

ขณะที่ แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2568 คาดว่ารายได้จะเติบโตได้ต่อเนื่องจากปีก่อน เนื่องจากมีการขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น รวมถึงการออกสินค้าใหม่ๆกลุ่มเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และโครงการ Easy E-Receipt 2.0 ที่จะกระตุ้นกำลังซื้อของประชาชนในประเทศ โดยนำใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ในวงเงิน 50,000 บาท ช่วงต้นปี 2568 จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกโดยเฉพาะการขายสินค้าผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด จะทำให้ยอดขายจากช่องทางดังกล่าวขยายตัวมากขึ้น และในส่วนของแผนระยะยาวบริษัทฯ วางกลยุทธ์ขยายตลาดในต่างประเทศ ทั้งรูปแบบการส่งสินค้าไปขาย และการร่วมการทำตลาด รวมถึงการแต่งตั้งตัวแทนจัดจำหน่าย เพื่อสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว

Back to top button